เมื่อวันที่ 25 มี.ค. พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้เดินทางมายังสนาม ฮ ชั่วคราวภายในมณฑลทหารบกที่ 13 อำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งมีพลตรีนิธิ อิงคสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 นำคณะนายทหารและหน่วยขึ้นตรงให้การต้อนรับ จากนั้นได้ขึ้นแท่นรับการเคารพจากทหารกองเกียรติยศและกราบสักการะต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนาราย์มหาราช หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังห้องประชุม 80 พรรษามหาราชันย์ บนตึกกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 ซึ่งมีอดีตผู้บังคับบัญชา ผู้นำหน่วยทหารในจังหวัดลพบุรี ส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดลพบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดชัยนาท ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของมณฑลทหารบกที่ 13 มาร่วมงานจำนวนมาก สำหรับการประกอบพิธีดังกล่าวเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับอดีตผู้บังคับบัญชา อดีตข้าราชการ มณฑลทหารบกที่ 13 ที่ล่วงลับไปและได้เสียสละเลือดเนื้อ และชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกันนี้คณะสงฆ์ได้และพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อเป็นศิริมงคลแก่กำลังพล และครอบครัวทางหน่วยในครั้งนี้ด้วย

สำหรับมณฑลทหารบกที่ 13 เป็นหน่วยทหารที่ถือกำเนิดมายาวนานที่เดิมเรียกว่า จังหวัดทหารบกลพบุรี โดยตั้งกองบังคับการจังหวัดทหารบกลพบุรีและได้รับการปรับปรุงกิจการเป็นครั้งแรก จนเข้าที่ตั้งเรียบร้อยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2480 จึงถือเอาวันที่ 25 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันสถาปนาหน่วยสืบมา จนเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2533 ได้แปรสภาพจังหวัดทหารบกลพบุรีเป็นมณฑลทหารบกที่ 13 เป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบพื้นที่ 4 จังหวัดได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดชัยนาท โดยปัจจุบันมี พล.ต.นิธิ อิงคสุวรรณ เป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 ซึ่งมีภารกิจในการถวายความปลอดภัยและการเทิดพระเกียรติแก่สถาบันพระมหากษัตริย์และสนองพระบรมราโชบาย โดยการจัดตั้งกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ในการเสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่รับผิดชอบ การรักษาเอกราชอธิปไตยของชาติและรักษาความมั่นคงภายใน รักษาความสงบเรียบร้อย การระดมสรรพกำลังและการสัสดี สนับสนุนหน่วยทหารที่อยู่ในเขตพื้นที่ ดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การต่อสู้เบ็ดเสร็จ การรักษาความสงบภายในและป้องกันประเทศตามที่กองทัพบกกำหนด

ทั้งการให้การสนับสนุนหน่วยในพื้นที่รับผิดชอบตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 1 ด้านการใช้กำลัง การเตรียมกำลัง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางด้านความพร้อมรบที่มีประสิทธิภาพเอาชนะภัยคุกคามได้ทุกมิติเป็นหลักด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติให้บังเกิดประสิทธิผลสูงสุดที่นำมาซึ่งความพึงพอใจและความเชื่อถือศรัทธาในคุณค่าของ นอกจากนี้ยังจัดกำลังกองร้อยเผชิญสถานการณ์ เพื่อเตรียมพร้อมในการคลี่คลายสถานการณ์เมื่อมีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบกับความมั่นคงในพื้นที่รับผิดชอบ จัดกำลังพลชุดปฏิบัติงานด้านการข่าว การตรวจการใช้และการเก็บรักษาวัตถุระเบิดโรงโม่หินในพื้นที่ ป้องกันการก่อเหตุร้ายภายในประทศ ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 13