สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ว่า เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อียูได้กำหนดให้สายการบินทยอยเพิ่มปริมาณของเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) หรือเอสเอเอฟ ตามเกณฑ์ที่ประกาศไว้
อย่างไรก็ตาม สายการบินได้ออกมาโต้แย้งว่า เชื้อเพลิงเหล่านี้ “ไม่สามารถหาได้ทั่วไป และมีราคาแพง” จนส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน
✈️ SAF is critical to decarbonise aviation.
— Airlines for Europe (A4E) (@A4Europe) March 27, 2025
A4E reaffirms its commitment to Net Zero by 2050 – but the ReFuel EU mandate is not delivering the affordable SAF market it promised.
There is no more time – the @EU_Commission & Member States must act now. pic.twitter.com/2MplycblDX
นายลูอิส กัลเลโก ประธานกรรมการบริหาร (ซีดีโอ) ของอินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ส กรุ๊ป หรือไอเอจี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจสายการบินไอบีเรีย บริทิช แอร์เวย์ส และอื่น ๆ กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เรามีเชื้อเพลิงเอสเอเอฟไม่เพียงพอ และเอสเอเอฟที่เรามีก็มีราคาแพง” โดยเขากล่าวในนามของแอร์ไลน์ส ฟอร์ ยุโรป (เอ4อี) ซึ่งเป็นสมาคมสายการบิน 17 แห่งรวมถึงลุฟต์ฮันซา และแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม
ตั้งแต่ปีนี้ อียูกำหนดให้สายการบินใช้เชื้อเพลิงยั่งยืนเอสเอเอฟอย่างน้อย 2% และตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 6% ในปี 2573 และ 70% ตั้งแต่ปี 2593 แต่ผลการศึกษาของเอ4อี ระบุว่า การผลิตเอสเอเอฟจะลดลง 30% จากระดับที่ต้องการ เพื่อบรรลุเป้าหมายปี 2573 และอุปทานของพลังงานจะไม่เพียงพอ สำหรับการบรรลุเป้าหมาย 6% ในปี 2573
กัลเลโกย้ำว่า “หากไม่มีการดำเนินการในตอนนี้ วิธีแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผลที่สุด คือการเลื่อนเป้าหมายเป็นปี 2573 ออกไป”.
เครดิตภาพ : AFP