นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน มีมติเห็นชอบดำเนินการตามนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล สำหรับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์(ARL) ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2568 เป็นเวลา 1 ปี เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และส่งเสริมให้หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งในเดือน เม.ย.2568 จะเสนอกระทรวงคมนาคม ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป โดยการเสนอการดำเนินการดังกล่าว กระทรวงคมนาคมจะเสนอพร้อมกับรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ ด้วย
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย เบื้องต้นจะได้รับสิทธิเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันของรัฐบาล และเดินทางด้วยบัตร EMV (บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต Contactless Payment) ที่ลงทะเบียนไว้ หากชำระค่าโดยสารผ่านบัตรประเภทอื่น หรือบัตรที่ไม่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันของรัฐบาล จะต้องชำระค่าโดยสารในอัตราปกติ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) กำหนด โดยหลังจากนี้ ARL จะร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในการเร่งติดตั้งหัวอ่านระบบ EMV เพิ่มเติมต่อไป
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว รฟท. จำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนเงินชดเชยรายได้ที่สูญเสีย ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ด้วย เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการภายใต้โครงสร้างค่าโดยสารที่เป็นธรรมต่อประชาชน และคงความยั่งยืนของระบบขนส่งสาธารณะ เบื้องต้นรถไฟฟ้าสายสีแดง จะขอรับการชดเชย 10 บาทต่อคน-เที่ยว และรถไฟฟ้า ARL 9.6 บาทต่อคน-เที่ยว ทั้งนี้ ปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่รถไฟฟ้า ARL ผู้โดยสารประมาณ 7.8 หมื่นคนต่อวัน
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า คาดว่ามาตรการดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นให้มีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการมากขึ้น สำหรับปี 2567 รถไฟฟ้าสายสีแดง มีผู้โดยสารประมาณ 24,165 คนต่อเที่ยวต่อวัน และผู้โดยสาร ARL ประมาณ 66,943 คนต่อเที่ยวต่อวัน คาดว่าในปี 2568 จะมีผู้โดยสารสายสีแดงเฉลี่ย 26,495 คนต่อเที่ยวต่อวัน และผู้โดยสาร ARL ประมาณ 78,532 คนต่อเที่ยวต่อวัน และคาดว่าในปี 2569 และ 2570 ยอดผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติสั่งจ้างกิจการค้าร่วม ในนามของบริษัท เทสโก้ จำกัด ประกอบด้วย บริษัท เทสโก้ จำกัด, บริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด, บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท ดีเคด คอนซัลแตนท์ จำกัด ดำเนินการทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสม แบบรายละเอียด จัดทำรายการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย ระยะทาง 33 กิโลเมตร (กม.) วงเงินประมาณ 135.62 ล้านบาท ซึ่งจะมีระยะเวลาศึกษา 450 วันด้วย
“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่จะใช้กับรถไฟฟ้าทุกสายตั้งแต่เดือน ก.ย. 2568 ตามนโยบายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม จะได้รับสิทธิเฉพาะผู้โดยสารที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และเดินทางด้วยบัตร EMV หรือบัตรเติมเงินประเภท ABT (ปัจจุบันมีเฉพาะบัตร Rabbit) ที่ลงทะเบียนไว้ ส่วนบัตรที่นอกเหนือจากบัตรดังกล่าว หรือบัตรที่ไม่ได้ลงทะเบียน ต้องชำระค่าโดยสารราคาปกติ
ทั้งนี้ การที่กำหนดให้ได้รับสิทธิเฉพาะบัตรดังกล่าว นอกจากจะทำให้การเดินทางข้ามสายได้รับความสะดวกโดยใช้บัตรใบเดียวแล้ว จะทำให้สามารถทราบตัวผู้โดยสารที่แท้จริงว่ามาใช้บริการรถไฟฟ้าสายใด จำนวนเท่าใด เพื่อจะได้ชดเชยรายได้ที่ถูกต้องให้กับผู้ประกอบการต่อไป สำหรับในระยะแรกนั้น บัตร Rabbit จะใช้ได้กับรถไฟฟ้าที่มีผู้ให้บริการรถไฟฟ้าเดียวกันก่อน ได้แก่ สายสีเขียว สีทอง สีชมพู และสีเหลือง ส่วนบัตร EMV ใช้ได้กับรถไฟฟ้าสายสีแดง แอร์พอร์ตเรลลิงก์ น้ำเงิน ม่วง ชมพู และเหลือง จากนั้นในระยะต่อไปจะสามารถใช้บัตรเดียวได้กับทุกสาย.
