สงกรานต์ปีนี้เล่นน้ำปลอดภัย และปลอดเหล้า กับงาน “สงกรานต์วิถีไทย สนุก ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์”สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายงดเหล้า และมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม จัดขึ้น เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลปลอดภัยอย่างยั่งยืน
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562-2566 มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเฉลี่ยถึง 4,519 ราย และมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะเทศกาลสงกรานต์ 2567 มีเหยื่อจากผู้ดื่มแล้วขับมากถึง ชั่วโมงละ 1 ราย

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บอกว่า สสส.และภาคีเครือข่าย เร่งเดินหน้ารณรงค์ ‘สงกรานต์วิถีไทยที่สนุก ปลอดภัย และไร้แอลกอฮอล์’ ผลักดันให้เกิดพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย ปลอดเหล้า กว่า 100 พื้นที่ มีถนนตระกูลข้าว (ปลอดเหล้า) 60 พื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมยืนหยัดจัดพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์เป็นการเฉลิมฉลองที่นึกถึงความสุขและความปลอดภัยของทุกคนในสังคมทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สคอ.ขอเชิญชวนและร่วมรณรงค์ให้มีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการไม่ขาย ไม่ดื่ม ในพื้นที่จัดงานสงกรานต์ ในพื้นที่สาธารณะ ฯลฯ รวมถึงการไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เยาวชนและผู้ที่มีอาการมึนเมา
ด้านนพ.ธนัช พจน์พิศุทธิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า ในปีนี้ยังคงมาตรการความปลอดภัย สงกรานต์ 5 ป. คือ ปลอดแอลกอฮอล์ ปลอดปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่ ปลอดโป๊ ปลอดแป้ง และประหยัดน้ำ พร้อมพัฒนาเส้นทางฉุกเฉินพิเศษ สำหรับใช้เดินทางเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว

ด้านนายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ขอเชิญชวนให้ปรับค่านิยมและพฤติกรรม คือ ดื่มไม่ขับ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ ไม่ขาย ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงานสงกรานต์ ให้ความสำคัญต่อความสนุกที่ยั่งยืนมากกว่าความสนุกชั่วคราว เพราะเล่นสงกรานต์สนุกและสนิทได้โดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ประเพณีสงกรานต์ของไทยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจาก UNESCO ดังนั้น มาตรการเชิงป้องกันและร่วมกันไม่ให้เกิดความสูญเสียจึงยังเป็นเรื่องที่สำคัญ สร้างรายได้ด้วยเศรษฐกิจที่สร้างสรรค์ปลอดภัยและยั่งยืน กำหนดมาตรการในโซนนิ่งเล่นน้ำปลอดภัยปลอดเหล้าอย่างจริงจัง มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดงาน ตอกย้ำคุณค่าประเพณีสงกรานต์ที่ไม่ใช่แค่การสาดน้ำ เพราะมีวิถีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก อาทิ เข้าวัดทำบุญ สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัว พัฒนาอัตลักษณ์แต่ละพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสืบสานวิถีวัฒนธรรมให้ร่วมสมัย มีกิจกรรมหลากหลาย
โดยมีจังหวัดต้นแบบตัวอย่างที่เทศกาลสงกรานต์ไม่มีแอลกอฮอล์แล้วกลายเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ “คือถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น” นักท่องเทียวนับแสนคนมาอยู่ร่วมกันแล้วไม่ทะเลาะวิวาท ซึ่งปีที่ผ่านมาจังหวัดขอนแก่นสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น เป็นตัวอย่างพื้นที่จัดงานปลอดแอลกอฮอล์ที่มีการควบคุม ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

นายวิทยา ภูโยสาร ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว ปี 2568 ด้วยแนวคิด “สุขีวิถีไทย รวมใจถนนข้าวเหนียว เที่ยวสนุกสาดถึงแก่น” มีขึ้นตั้งแต่ 8-15 เม.ย. นี้ กิจกรรมสำคัญ คือ คลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์บนถนนข้าวเหนียว ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยวสงกรานต์ที่ขอนแก่น อีกครั้ง

