เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานข่าวจากประเทศฝรั่งเศส กรณีชายวัย 48 ปีและลูกชายวัย 18 ปีของเขาโดนจับกุมในข้อหาฉ้อโกงร้านอาหารประมาณ 100 แห่งในแคว้นตูลงของฝรั่งเศส ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
พ่อลูกคู่นี้หาวิธี “กินแล้วหนี” อย่างแนบเนียนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง แต่เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแคว้นตูลงก็ติดตามจับกุมพวกเขาได้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายงานว่า พ่อลูกคู่นี้สามารถหลอกลวงเหยื่อไปประมาณ 100 รายในเวลา 3 ปีเพราะพวกเขาวางแผนอย่างดี มีการสืบหาข้อมูลทางออนไลน์เกี่ยวกับร้านที่ตกเป้าหมายของพวกเขา โดยจะเลือกเฉพาะร้านอาหารที่มีการรีวิวหรือระบุลักษณะการให้บริการว่า “เป็นมิตรกับลูกค้า” และพวกเขาจะไม่กลับไปหลอกลวงร้านอาหารเดิมซ้ำอีก
นอกจากนี้ พ่อลูกนักต้มตุ๋นยังรู้จักใช้การแต่งกายเพื่อทำให้เหยื่อตายใจ พวกเขาจะแต่งตัวอย่างดีไปยังร้านอาหารที่เป็นเป้าหมาย สั่งอาหารตามรูปแบบของลูกค้าชั้นดี เริ่มด้วยการสั่งเมนูกินเล่น ตามด้วยอาหารจานหลัก ของหวาน ไวน์และเครื่องดื่มช่วยย่อยหลังอาหาร ซึ่งค่าอาหารจะอยู่ระหว่าง 80-150 ยูโร (ราว 3,000-5,600 บาท)
แต่เมื่อถึงเวลาเก็บเงินค่าอาหาร พ่อวัย 48 ปีก็จะแกล้งจ่ายด้วยบัตรเครดิตก่อน ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้งานไม่ได้จริง จากนั้นเขาก็ทำเป็นบอกให้ลูกชายไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็จะกลับมามือเปล่า
เมื่อเห็นว่าลูกชายกดเงินไม่ได้ ผู้เป็นพ่อก็จะเสแสร้งว่าละอายใจและขายหน้าอย่างมาก พร้อมทั้งขอโทษทางร้านและสัญญาว่าจะนำเงินมาจ่ายในวันรุ่งขึ้นโดยจะทิ้งบัตรประชาชนหรือบัตรประกันสังคมของเขาเอาไว้เป็นหลักประกันเพื่อให้ทางร้านมั่นใจว่าพวกเขาจะกลับมาจ่ายค่าอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่ร้านอาหารก็จะยอมรับข้อเสนอนี้ แต่สองพ่อลูกก็ไม่เคยกลับมาจ่ายเงินให้ร้าน
แหล่งข่าวจากตำรวจกล่าวว่า หลังจากที่หลอกลวงร้านอาหารได้สำเร็จ ชายที่เป็นพ่อจะก็เข้าไปแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า บัตรประจำตัวและบัตรประกันสังคมของเขาถูกขโมยและยื่นเรื่องขอออกบัตรใหม่ จากนั้นพวกเขาก็จะทำบัตรเหล่านี้ไปหลอกลวงเหยื่อรายใหม่ต่อไป
กลยุทธ์กินฟรีของสองพ่อลูกนี้ใช้ได้ผลหลายครั้ง จนกระทั่งเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว เจ้าของร้านอาหารรายหนึ่งโพสต์รูปบัตรประจำตัวที่พ่อลูกมิจฉาชีพทิ้งไว้บนโซเชียลมีเดีย พร้อมเล่ารายละเอียดของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่อมา เมื่อโพสต์ของเขากลายเป็นไวรัล ก็มีเจ้าของร้านอาหารรายอื่นๆ อีกหลายสิบรายอ้างว่าตกเป็นเหยื่อของแผนการดังกล่าวของสองมิจฉาชีพ ในที่สุด เจ้าของร้านอาหารทั้งหมด 43 รายในตูลงก็เข้าแจ้งความกับตำรวจ
หลังจากการสืบสวนเป็นเวลาหลายเดือน ฝ่ายตำรวจก็สามารถระบุตัวตนและจับกุมพ่อลูกคู่นี้ได้ โดยทั้งคู่ยอมรับว่าฉ้อโกงร้านอาหารมาแล้วหลายแห่งในช่วงเวลา 3 ปี ลูกชายซึ่งยังเป็นผู้เยาว์ในช่วงก่อเหตุส่วนใหญ่อ้างว่า บางครั้งพวกเขาก็ไปหลอกกินฟรีจากร้านประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ในขณะที่พ่อของเขาสารภาพว่า ได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงเกี่ยวกับอาหารประมาณ 100 ครั้งระหว่างเดือนมกราคม 2564 ถึงเดือนสิงหาคม 2567
รายงานของตำรวจชี้ว่า เหยื่อบางรายเคยพูดคุยกันเกี่ยวกับการหลอกลวงดังกล่าว แต่พวกเขาก็ยุ่งเกินกว่าจะเข้ามาร้องเรียนหรือไม่สนใจมูลค่าความสูญเสียของตนมากนัก ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกมิจฉาชีพประเภทนี้คาดหวังไว้ เมื่อเลือกเหยื่อเป็นเจ้าของร้านอาหารประเภทที่ “เป็นมิตรกับลูกค้า”
ที่มา : odditycentral.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES