เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวทางการแพทย์ที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากล่าสุดเมื่อวันที่ 13 เม.ย. แฟนเพจชื่อดังอย่าง “Tensia” ได้ออกมาระบุว่า “ใครว่างานหนักไม่ทำให้ใครตาย ให้ดูเบต้าเซลล์ค่ะ เซลล์ที่ทำงานหนักจนตาย ในคนที่มีภาวะดื้ออินซูลิน”

ในภาพแสดง “อาณาจักรต่อมไร้ท่อ” ในตับอ่อน ที่เรียกว่า Islet of Langerhans ซึ่งอาณาจักรนี้ จะวางตัวเป็นหย่อมๆ ท่ามกลางต่อมที่หลั่งน้ำย่อย
สีน้ำเงิน = ตำแหน่งเซลล์ทั้งหมด รวมทุกเซลล์
สีเขียว = แอลฟ่าเซลล์ เซลล์ที่หลั่งกลูคากอน ฮอร์โมนเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด
สีแดง = เบต้าเซลล์ เซลล์ที่หลั่งอินซูลิน ฮอร์โมนที่ลดระดับน้ำตาลในเลือด ผู้เคราะห์ร้ายของเรา

เมื่อมีการกินรับพลังงานมาเกินเรื้อรัง, มีภาวะอ้วน, ไม่ออกกำลังกาย ฯลฯ หรือสั้นๆ เลยคือ ปล่อยตัวอ่ะค่ะ ไม่ดูแลสุขภาพ จะสร้างแวดล้อมให้อยู่ในสภาพอักเสบอ่อนๆ เรื้อรัง (Chronic low-grade inflammation) ซึ่งสภาพนี้ จะทำให้อวัยวะต่างๆ ปรับตัวเข้าสู่โหมด stress แล้วเริ่มไม่ฟังคำสั่งอินซูลิน ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดขยับสูงขึ้น ตลอดเวลา เรียกภาวะนี้ว่า ดื้ออินซูลิน

“เบต้าเซลล์ที่เป็นตัวแทนผลิตและส่งออกอินซูลินต้องรับผิดชอบเต็มๆ โทษฐานที่ปล่อยให้น้ำตาลสูง ทั้งๆ ที่น้องไม่ได้เป็นคนผิด เบต้าเซลล์ต้องเร่งการผลิต เร่งการส่งออกอินซูลินหามรุ่งหามค่ำ จนไม่ได้พัก อาจจะฟังดูเหมือนพยายามเล่าเรื่องเกินไป55 แต่เชื่อเหอะค่ะ ไม่เกินจริง เบต้าเซลล์เร่งจนเกิดการบกพร่องของสภาพพลังงาน เริ่มมีไมโตคอนเดรียเสียหาย” แต่เบต้าเซลล์ก็ยังเฆี่ยนให้หลั่งอินซูลินเยอะๆ ต่อไป เพราะอวัยวะมันไม่ยอมฟังคำสั่งอินซูลิน ต้องส่งอินซูลินไปเยอะกว่าปกติ ไปตะโกนให้เก็บน้ำตาล

วันเวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก จากดื้ออินซูลินเฉยๆ สู่เบาหวาน เบต้าเซลล์เริ่มเบิร์นเอาท์ทีละเซลล์ ทยอยกันล้มตาย เซลล์ที่เหลืออยู่ก็ยิ่งงานโหลด ก็ยิ่งล้มตายกันระเนระนาด จนสุดท้ายแทบไม่เหลือใครให้หลั่งอินซูลินอีกต่อไป ซึ่ง ณ ตอนนั้น ปัญหาที่คอยมีเบต้าเซลล์กันไว้ตลอดก็ปะทุออกมา น้ำตาลพุ่งกระฉูด เกิดภาวะแทรกซ้อนมากมาย

“อย่าให้ถึงจุดนั้นเลยค่ะ หันมาดูแลสุขภาพกันตั้งแต่วันนี้น้าาาา และอย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า ตอนนี้ร่างกายเราไปถึงไหนแล้ว” และสำหรับภาพดังกล่าวนั้นมาจากบทความ Nature Portfolio ภาพถ่ายเบต้าเซลล์โดยวิธี Immunofluorescense โดย Susan Bonner-Weir จาก Joslin Diabetes Center..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Tensia