เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ ETtoday ได้รายงานเหตุการณ์ น่าตกใจภายหลัง บีเจนางแบบสาว ชาวเกาหลีใต้รายหนึ่ง กำลังไลฟ์พูดคุยเรื่องเต้นอยู่ในแพลตฟอร์ม SOOP แล้วอยู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ภายหลังมีชายหนุ่มชุดดำ มีรอยสัก เปิดม่านด้านหลังเธอเข้ามา ทำให้เธอมีการตกใจเล็กน้อยพูดอะไรไม่ออกก่อนจะลุกขึ้น เป็นขณะเดียวกันชายคนดังกล่าวได้เดินตรงเข้ามานั่งที่เก้าอี้ด้านหลังเธอแล้วสวมกอดจากด้านหลังแล้วจับเธอนั่งตัก จากนั้นเธอจึงตัดคลิปเป็นภาพการ์ตูนค้างไว้
โดยชายคนดังกล่าวถูกสงสัยว่าเป็นแฟนหนุ่มของเธอ แต่เธอกลับชี้แจงว่าเป็น “ชายโรคจิตที่ตามรังควาน” อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตเกาหลีพากันตั้งคำถามและวิจารณ์หนักว่า “รู้รหัสบ้านเข้าได้เอง แบบนี้ใครจะเชื่อว่าเป็นพวกตามตื้อ” และ “คิดว่าแฟนคลับโง่หรือไง?”
ต่อมามีการเปิดเผยในเว็บบอร์ดเกาหลีใต้ เป็นคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ความยาวเพียง 24 วินาที ก่อนไลฟ์จะถูกตัดไปเป็นภาพการ์ตูน ท่ามกลางความแตกตื่นของบรรดาแฟนคลับของเว็บบอร์ดดังกล่าว ทำเอาต่างตกใจแห่คอมเมนต์ถามกันจำนวนมาว่า “เขาเป็นใคร”, “เกิดอะไรขึ้น”, “ใช่แฟนเหรอไม่”, “ทำเกินไปแล้ว!” และแชร์กันออกไปอย่างรวดเร็ว
กระทั่งไม่นานหลังเกิดเหตุ นางแบบสาวได้รีบชี้แจงว่า “ผู้ชายคนดังกล่าวเป็นโรคจิตที่ตามรังควาน เดี๋ยวจะไปแจ้งความ ขอเวลาตั้งหลักก่อนแล้วจะกลับมา” แต่คำอธิบายนี้ไม่เป็นที่ยอมรับของชาวเน็ต เพราะหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า “ถ้าเป็นพวกโรคจิตจะรู้รหัสเข้าบ้านได้ไง” “หายไปตั้งนาน สุดท้ายกลับแก้ตัวว่าเป็นพวกตามตื้อ”
จนในที่สุดกลายเป็นประเด็นร้อน นางแบบสาวจึงได้ออกมาชี้แจงอีกครั้งว่า “ผู้ชายคนดังกล่าวคือแฟนเก่า เคยคบกันแค่ 2 เดือนช่วงมีนาคมถึงพฤษภาคมปีที่แล้ว ตอนนั้นเคยใช้รหัสประตูบ้านเดียวกัน พอเลิกกันลืมเปลี่ยนจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพราะหลังเลิกกันยังมาตามตื้อ กดรหัสเข้ามาเอง ซึ่งฉันก็พยายามขัดขืนร้องเสียงดังแต่ไม่ได้เปิดเสียงไลฟ์”
นางแบบสาวยังแจงกับชาวเน็ตอีกว่า เป็นเรื่องส่วนตัวและคงจะไม่แจ้งความ แต่จะทำความเข้าใจกันระหว่างสองคนเอง อย่างไรก็ตาม ข้อแก้ตัวต่างๆนานา ชาวเน็ตจำนวนมากยังคงไม่เชื่อ พร้อมคอมเมนต์แรงว่า “ใครจะไปเชื่อ”
จากนั้นท้ายข่าวทางเว็บไซต์ได้แชร์คลิปอินสตาแกรม “inssahumor” ที่นำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว มาโพสต์ โดยระบุข้อความว่า “บีเจ ฟอเรสต์ กับแฟนหนุ่มเรียลไทม์”
ข้อมูล-ภาพ เว็บไซต์ “ETtoday” – คลิป อินสตาแกรม “inssahumor”
