จากกรณีความขัดแย้งเรื่องสิทธิครอบครองที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งปากขอ ระหว่างชาวบ้านกลุ่มไทดำ บ้านทับชัน กับหน่วยงานราชการ ล่าสุด นายธนชัย หนูไชยแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทรัพย์ทวี อำเภอบ้านนาเดิม ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าว โดยโต้แย้งข้อกล่าวอ้างของกลุ่มชาวไทดำ ที่ว่าการออกเอกสาร น.ส.ล. เลขที่ 30977 ผิดพลาดคลาดเคลื่อน
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. นายธนชัยชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงคือ จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้สั่งการให้ อบต.ทรัพย์ทวี ดำเนินการรังวัดและสอบแนวเขตที่ดิน โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาบ้านนาสาร ได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 พบว่าเนื้อที่ทั้งหมด 4,143 ไร่ 90 ตารางวา ซึ่งการรังวัดใหม่ด้วยระบบดาวเทียมมีความแม่นยำสูง และจากการตรวจสอบหลักฐานที่ดินเดิม พบว่ารูปแผนที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขตการปกครองยังคงเดิม และเจ้าของที่ดินข้างเคียงได้ลงนามรับรองแนวเขตครบถ้วน อีกทั้งยังไม่มีผู้ใดคัดค้านการรังวัด อบต.ทรัพย์ทวี จึงได้รายงานผลการรังวัดไปยังจังหวัดเรียบร้อยแล้ว
นายก อบต.ทรัพย์ทวี ยืนยันว่า ผลการรังวัดไม่พบว่ามีการออกโฉนดผิดพลาดคลาดเคลื่อนแต่อย่างใด ที่ดินเป็นไปตามตำแหน่งเดิมที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ ดังนั้น อบต. จึงไม่มีหน้าที่ที่จะเสนอให้กรมที่ดินเพิกถอน แต่มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลรักษาที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าว ไม่ให้ถูกบุกรุกครอบครองโดยมิชอบ การประท้วงของกลุ่มไทดำที่กล่าวหาว่าการออกโฉนดไม่ชอบนั้นจึงไม่เป็นความจริง

นายธนชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา อบต. พยายามแก้ไขปัญหาเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ แต่เมื่อไม่นำความจริงมาพูดคุยเพื่อยุติปัญหา กลับมีการบานปลายถึงขั้นใช้กฎหมู่ ซึ่งตนในฐานะนายก อบต. มีความสุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีเสียเอง ล่าสุด ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ อบต. จัดส่งแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะทุ่งปากขอ เพื่อป้องกันการทุจริตในการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เนื่องจากปัจจุบัน พบว่าที่ดิน น.ส.ล. ที่สาธารณประโยชน์ทุ่งปากขอทั้ง 3 แปลง เนื้อที่รวม 7,826 ไร่เศษ ซึ่งกรมชลประทานขอใช้พื้นที่สร้างแก้มลิง กลับถูกบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมันไปแล้วถึง 5,236 ไร่ ทำให้กรมชลประทานสามารถใช้พื้นที่ก่อสร้างได้เพียง 2,500 ไร่เศษเท่านั้น และโครงการยังไม่แล้วเสร็จ
นายก อบต.ทรัพย์ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาทราบปัญหาการบุกรุกเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันมาโดยตลอด และพยายามแก้ไข กระทั่งล่าสุด มีชาวบ้านที่บุกรุก 8 ราย ฟ้องศาลปกครองเรียกค่าละเมิดจากการเปิดพื้นที่ก่อสร้างของกรมชลประทาน แต่ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่าผู้ฟ้องทั้ง 8 ราย เข้าครอบครองพื้นที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่ง อบต. ได้มอบหมายให้นิติกรเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาเดิม เพื่อดำเนินคดีอาญาในข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งปากขอ กับผู้ฟ้องทั้ง 8 ราย เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจน หากตนไม่ดำเนินการเอาผิดกับผู้บุกรุก ในอนาคตตนก็จะมีความผิดฐานละเว้น การที่กลุ่มไทดำจะมากล่าวอ้างและสร้างกระแสกดดันราชการเพื่อหาความชอบธรรมในการครอบครองที่ดินหลวงนั้นไม่ถูกต้อง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขณะนี้ อบต. กำลังรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบรายชื่อผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่สาธารณประโยชน์ทุ่งปากขอทุกราย หลังพบว่ามีการได้ที่ดินมาจากการซื้อขายและการกดดันรัฐให้เพิกถอนที่ น.ส.ล. ซึ่งเป็นกระบวนการฮุบที่หลวงโดยใช้กลุ่มชาวบ้านเป็นเครื่องมือ