สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ว่าทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศการพักรบกับยูเครน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 19 เม.ย. ( 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) จนถึงช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 21 เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงของการเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์


ทั้งนี้ ปูตินกล่าวกับพล.อ.วาเลอรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมรัสเซีย ว่าการหยุดยิง “ตั้งอยู่บนหลักการพื้นฐานด้านมนุษยธรรม” และแสดงความคาดหวังว่า ยูเครนจะปฏิบัติตามเช่นกัน


ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ท่าทีดังกล่าวของปูตินเป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ผู้นำรัสเซีย “เล่นกับชีวิตมนุษย์” และเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังข้อตกลงหยุดยิงมีผล เซเลนสกีกล่าวว่า กองทัพรัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่และปฏิบัติการทางทหารโจมตีแนวรบแดนหน้าของยูเครน


อย่างไรก็ตาม ทั้งรัสเซียและยูเครนยืนยันตรงกัน ว่ามีการแลกเปลี่ยนเชลยศึกฝ่ายละมากกว่า 240 คน อีกทั้งเซเลนสกีกล่าวว่า ยูเครนพร้อมปฏิบัติตาม และหากการหยุดยิงครอบคลุมจนครบช่วงเวลา รัฐบาลเคียฟอาจเสนอให้มีการขยายระยะเวลาหยุดยิงนานออกไปอีก

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นาน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลวอชิงตัน ในการเป็นคนกลางเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่าหากคู่เจรจาฝ่ายหนึ่งทำให้กระบวนการนั้น “เป็นเรื่องยุ่งยาก” เท่ากับว่า “มีเหตุผลเพียงพอที่สหรัฐจะบอกผ่าน” แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า “จะไม่ต้องไปถึงขั้นนั้น”


ด้านนายมาร์โก รูบิโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า ความพยายามของรัฐบาลวอชิงตันในการเป็นคนกลาง และการเป็นผู้ประสานงานในการเจรจาสร้างสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน “ไม่ใช่ภารกิจตลอดกาล” รัฐบาลวอชิงตันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่ในเวลาเดียวกัน มีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่องซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน และสมควรได้รับการให้ความสำคัญในระดับเดียวกัน.

เครดิตภาพ : AFP