ภายในนั้นมีอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ตั้งอยู่ในพื้นที่ A13 โซน Connecting Lives ภายใต้ธีม “THAILAND Connecting Lives for Greatest Happiness” สร้างสรรค์ชีวิตเพื่อความสุข ที่ยิ่งใหญ่ ผ่านอาคารจัดแสดงนิทรรศการ “วิมานไทย” (VIMANA THAI)” ที่นำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรมที่มีรากฐานมาจาก ภูมิปัญญาไทยในแนวคิด “SMILE” ออกแบบโดยนำศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยโบราณผสานเข้ากับวิธีก่อสร้างสมัยใหม่ โดดเด่นด้วยหลังคา “ทรงจอมแห” ลักษณะทรงครึ่งจั่วล้อมด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่

ประกอบด้วย 3 ห้องจัดแสดง ได้แก่ ห้อง THAI WISDOM, THAI MEDICAL AND WELLNESS HUB และ THAI LIVING LAB ที่มีคอนเซ็ปต์ 10, 100, 1,000, 10,000, 100,000 และ 1,000,000 ถ่ายทอดความเป็นไทยที่ผสมผสานกับเทคนิคล้ำสมัย ภายใต้แนวคิดหลัก “Designing Future Society For Our Live” เพื่อเป้าหมายชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดี สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) โดยแบ่งออกเป็น 3 แนวคิดย่อย ได้แก่ 1.Saving Live การปกป้องชีวิตของผู้คน 2. Empowering Live การพัฒนาคุณภาพชีวิต 3. Connecting Live ส่งเสริมความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรม โดยมี “น้องภูมิใจ” มาสคอตประจำอาคารนิทรรศการไทยที่ทำหน้าที่เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวของประเทศไทย
การเชื่อมโยงนวัตกรรมด้านการแพทย์สมัยใหม่เข้ากับภูมิปัญญาและวัฒนธรรมด้านสุขภาพของไทย มีการนำเครื่องจักสานซึ่งเกี่ยวข้องกับความเชื่อของชาวไทยมาแต่โบราณอย่าง “เฉลว” สอดแทรกอยู่ทั้งในส่วนของอาคาร นิทรรศการ ไปจนถึงเครื่องแต่งกาย และน้องภูมิใจ ตอกสานคล้ายรูปดาวแฉก เป็นเครื่องหมายบอกหรือสัญลักษณ์ โดใช้ตอกขัดสานกันเป็นมุมแฉก ๆ ลักษณะเหมือนตาชะลมหรือเข่งปลาทู มีตั้งแต่ 3 แฉก 5 แฉก 6 แฉก 8 แฉกไปจนถึง 12 แฉก แล้วเหลือปลายตอกข้างหนึ่งให้ยาวออกมาไว้สำหรับปักลงบนสิ่งที่ต้องการ สำหรับแพทย์แผนไทยโบราณมักใช้เฉลวปักลงบนหม้อยาเพื่อทำให้ยานั้นเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ทำให้รักษาโรคภัยต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น หรือมิให้ภูติผีมาข้าม ซึ่งอีกนัยหนึ่งการปักเฉลวลงบนหม้อยานั้นก็เพื่อป้องกันมิให้มีคนมาเปิดหม้อยาจนทำให้ยาเสื่อมสภาพ
แนวคิด “Thai-Smile Connecting Happiness World Destination” หรือ “ยิ้มสยามที่ก่อให้เกิดความสุขเป็นเป้าหมายปลายทางของคนทั่วโลก” ถอดรหัสความหมายจากคำว่า SMILE ได้แก่ S – Siam, M – Medical and Wellness Hub, I – Inspiration towards Wellness Community, L – Living Lab และ E – Enchanting Thailand แบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก คือ “ภูมิวิถี” พาเข้าสู่ดินแดนแห่งทรัพยากร วัฒนธรรม และอาหารไทย สะท้อนบทบาทไทยในฐานะครัวของโลก “ภูมิคุ้มกัน” ถ่ายทอดภูมิปัญญาไทยสู่นวัตกรรมการแพทย์และสาธารณสุขระดับโลก และ “ภูมิสยาม” สัมผัสเสน่ห์แบบไทยผ่านการชิมอาหารไทย และกิจกรรมหมุนเวียน ทั้งการนวดไทย การทำถุงเครื่องหอม และอีกหลากหลายกิจกรรมตลอดระยะเวลาจัดงาน

นอกจากน้องภูมิใจแล้ว เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเวทีให้ศิลปินวง “BUS because of you i shine” ศิลปิน T – Pop มาแรงแห่งยุค ร่วมจัดการแสดงพร้อมนำเสนอประเพณีสงกรานต์ต้อนรับปีใหม่ไทย เพื่อเผยแพร่อัตลักษณ์ไทยในรูปแบบร่วมสมัย เสริมสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่สายตานานาชาติผ่าน Soft Power ด้านวัฒนธรรมและดนตรีสมัยใหม่
นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายบริการการตลาด ททท. เปิดเผยว่า ททท. ให้ความสำคัญกับ T-POP ในฐานะ Soft Power ยุคใหม่ที่สามารถถ่ายทอดอัตลักษณ์ไทยในรูปแบบร่วมสมัย เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะวง “BUS because of you i shine” บอยกรุ๊ปหน้าใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม และกลายเป็นไอคอนแห่งยุคที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของดนตรีไทยร่วมสมัยบนเวทีนานาชาติ
โดย ททท. ได้ร่วมมือกับซันเรย์ มิวสิค เปิดเวทีให้สมาชิกทั้ง 12 คน ของวง BUS because of you i shine ได้แก่ อลัน-พศวีร์ ศรีอรุโณทัย, มาร์คคริส-กฤษณ์ กัญจนาทิพย์, ขุนพล-ปองพล ปัญญามิตร, ฮาร์ท-ชุติวัฒน์ จันเคน, จินวุค คิม, ไทย-ชญานนท์ ภาคฐิน, เน็กซ์-ณัฐกิตติ์ แช่มดารา, ภูธัชชัย -ธัชชัย ลิ้มปัญญากุล, คอปเปอร์-เดชาวัต พรเดชาพิพัฒ, เอเอ-อชิรกรณ์ สุวิทยะเสถียร, จั๋งธีร์-ธีร์ บุญเสริมสุวงศ์ และภีมวสุ-วสุพล พรพนานุรักษ์ ร่วมโชว์ T-POP พร้อมนำเสนอประเพณีสงกรานต์ในโอกาสเฉลิมฉลองเทศกาลวันปีใหม่ไทย ณ บริเวณด้านหน้า Thailand Pavilion

ภายใต้บรรยากาศของ Thailand Pavilion ที่นำเสนอ “รอยยิ้มสยาม” ในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งความสุข การแสดงของวง BUS because of you i shine จึงไม่ใช่แค่ความบันเทิง หากแต่เป็นการถ่ายทอด “ความเป็นไทย” ในมิติใหม่ที่มีชีวิตชีวา เข้าถึงได้ และน่าจดจำในสายตาชาวโลก
“ททท. เชื่อว่าการมีส่วนร่วมของวง BUS because of you i shine ในครั้งนี้ ไม่เพียงเติมสีสันให้กับ Thailand Pavilion แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับ T-POP ให้กลายเป็นพลังทางวัฒนธรรมไทย ที่นำเสนอในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีรากวัฒนธรรมมั่นคง พร้อมเปิดรับความคิดสร้างสรรค์และการเปลี่ยนแปลงอย่างมีพลัง โดยคาดหวังว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นความสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางผ่านประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยในมิติที่ทันสมัย น่าประทับใจ และแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์”

การแสดงครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมจากนานาประเทศที่เดินทางมาร่วมงานมหกรรมระดับโลกครั้งนี้ ได้สัมผัสเสน่ห์ของประเทศไทย ผ่านทั้งมิติของวัฒนธรรมดั้งเดิมและศิลปะร่วมสมัย โดยนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของความเป็นไทยที่สดใส เข้าถึงง่าย ตลอดจนเป็นก้าวสำคัญในการผลักดัน T-POP สู่สายตาชาวโลก
งาน World Expo เป็นมหกรรมสำคัญระดับโลกที่จัดขึ้นทุก 5 ปี ถือเป็นเวทีที่แต่ละประเทศใช้ในการนำเสนอแนวคิด นวัตกรรม และอัตลักษณ์ของตน ผ่านสถาปัตยกรรม การจัดแสดง และกิจกรรมสร้างสรรค์ โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2568
อธิชา ชื่นใจ