“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปแผนการเดินขบวนรถธรรมดา รถชานเมือง รถท้องถิ่น และขบวนรถไฟทางไกลรวมประมาณ 30 ขบวน ที่จะเข้าสถานีลพบุรีเดิมและเดินขบวนเส้นทางใหม่เข้าสถานีลพบุรี 2 ซึ่งเป็นสถานีแห่งใหม่ในโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางสายเหนือช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงินก่อสร้าง 2.15 หมื่นล้าน
เบื้องต้นจะเริ่มทดลองให้บริการเดินรถไฟทางคู่สายเหนือตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. 2568 ทั้ง 30 ขบวน แต่ใช้สถานีลพบุรีเดิมไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปแผนจัดขบวนรถ โดยปรับเวลาใหม่ใน 2 ขบวนนำร่อง ที่มีผู้โดยสารขึ้นลงลพบุรีและสถานีใกล้เคียงจำนวนมาก ประกอบด้วย
1. รถเร็วขบวนที่ 102 เชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์ โดยออกจากสถานีเชียงใหม่เวลา 06.30 น. เช่นเดิม และปรับเวลาใหม่ตั้งแต่สถานีบางกระทุ่ม-สถานีกลางฯ ถึงสถานีปลายทางสถานีกลางฯ เวลา 19.30 น. ทั้งนี้ จะออกจากสถานีลพบุรีเวลา 17.18 น. จากเดิม 18.06 น.
2. รถธรรมดาขบวนที่ 210 บ้านตาคลี-กรุงเทพ (หัวลำโพง) ออกจากสถานีบ้านตาคลีเวลาใหม่ 16.00 น. ออกจากสถานีลพบุรีเวลาใหม่ 17.08 น. จากเวลาเดิม 17.32 น. ถึงสถานีหัวลำโพง 20.20 น.
เบื้องต้นใช้เวลาเดินทางเร็วขึ้นประมาณ 1 ชม. เนื่องจากไม่ต้องรอสับหลีกราง แต่ใช้ทางคู่ยังไม่เต็มระบบ รวมทั้งใช้ระบบอาณัติสัญญาณเดิมไปพลางก่อน ด้วยระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Token) ซึ่งจัดการเดินรถได้ทั้งแบบแมนนวล และอัตโนมัติ ระหว่างรองานสัญญาที่ 3 ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม วงเงิน 2.77 พันล้านบาท ได้ผลงานประมาณ 57% คาดว่าจะแล้วเสร็จ และให้บริการด้วยระบบอาณัติสัญญาณแบบสมบูรณ์ปลายปี 2568
สำหรับงานก่อสร้างโครงการ 2 สัญญา ทั้งโครงสร้างอาคารสถานี ชานชาลา และวางรางเสร็จแล้ว 100% อยู่ระหว่างตรวจรับงาน มีความโดดเด่น (ไฮไลต์) อยู่ที่ทางรถไฟยกระดับในสัญญาที่ 1 ด้วยความยาว 19 กม. สูง 10-20 เมตร เริ่มตั้งแต่ออกจากสถานีบ้านกลับ จ.สระบุรี และเริ่มลดระดับลงก่อนเข้าสถานีโคกกระเทียม จ.ลพบุรี ก่อสร้างสถานีใหม่ “ลพบุรี 2” เป็นสถานียกระดับบนทางหลวงหมายเลข 366 หรือทางเลี่ยงเมืองลพบุรี อยู่ก่อนถึงแยกสนามไชย ต.โพลาดแก้ว อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ห่างสถานีลพบุรีเดิม ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี ประมาณ 9 กม. แยกเส้นทางออกจากแนวเส้นทางรถไฟเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบพระปรางค์สามยอดและโบราณสถานที่สำคัญของ จ.ลพบุรี
Photo Credit | ขอบคุณเพจสถานีรถไฟลพบุรี การรถไฟแห่งประเทศไทย
