เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย สาขาร้อยเอ็ด ดร.ฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด เขต 2 พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ปธ.กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีตึก สตง.แห่งใหม่ ที่กำลังก่อสร้างด้วยงบประมาณ 2,136 ล้านบาท บนถนนกำแพงเพชร 2 ใกล้ตลาดนัดส่วนจตุจักร กทม. ถล่มเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิต และสูญหายเป็นจำนวนมาก สื่อทุกแขนงประโคมข่าวเปิดโปงเบื้องลึกเบื้องหลังหลายประเด็น เป็นมหากาพย์ฉาวโฉ่ไปทั่วโลก ที่นับจากวันนั้นเป็นต้นมา ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลายแง่มุมถึงสาเหตุตึกถล่ม ท่ามกลางความกังขาของคนทั่วประเทศ

ดร.ฉลาด ระบุว่า กรณีตึก สตง.แห่งใหม่ถล่มดังกล่าว ผ่านมาเกือบ 1 เดือน ได้กลายเป็นอาฟเตอร์ช็อก ที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ส่งผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจญาติพี่น้องผู้สูญเสีย นอกจากนี้ยังเกิดข้อสงสัย ผุดประเด็นคำถามตามมาอีกหลายประการ กับข้อมูลใหม่ที่ถูกเปิดเผยรายวัน เกี่ยวเนื่องไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง ที่มาที่ไปของการก่อสร้าง งบประมาณ การบริหารจัดการอื่นๆ โดยในเบื้องต้นคาดว่ามันน่าจะมีอะไรมากไปกว่ามีสาเหตุจากเหตุแผ่นดินไหว ตามที่ได้รับรู้รับทราบจากสื่อสารมวลชนทุกแขนง ที่เสนอข่าวต่อเนื่องตลอดมาถึงวันนี้
กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนฯ และองค์กรตรวจสอบหลายแห่ง ก็ได้เข้าทำการตรวจสอบ เพื่อสร้างความกระจ่างให้เกิดขึ้นทั้งนี้ ตามหลักของการขอใช้งบประมาณโดยทั่วไป หากมีการเสนอขอต่อสภาผู้แทนราษฎร ก็จะมีการพิจารณา มีการตีความ ถึงความเหมาะสม ความคุ้มค่า แต่กรณีนี้ถือว่า เป็นการใช้เงินสะสมของ สตง. เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานให้ตนเอง โดยใช้เงินสะสมของตัวเองดังกล่าว สตง. เป็นหน่วยงานตรวจสอบการรับจ่าย การเก็บรักษา การใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินฯ ของส่วนราชการ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญในการก่อสร้างโดยตรง ต้องจ้างคนออกแบบ จ้างคอนเซาท์หรือผู้ควบคุมงานซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมาดำเนินการให้ ต่อมาเกิดปัญหาพังทลายลงมา หลายคนมองว่าสาเหตุอาจเกิดจากการบริหารจัดการ ตั้งแต่เริ่มต้น เช่น การบริหารสัญญา คุณภาพใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง รวมทั้งระหว่างก่อสร้างมีการแก้ไขแบบการก่อสร้าง

ดร.ฉลาด กล่าวต่อว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ตึก สตง. ที่กำลังก่อสร้างนี้มีความสูงถึง 30 ชั้น ถือว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดของส่วนราชการ การตรวจสอบ จึงต้องมองย้อนไปที่การออกแบบ ว่าทำไมต้องสร้างสูงขนาดนี้ จะมีการใช้ประโยชน์ใดบ้าง รวมไปถึงการตรวจสอบผู้ควบคุมงาน วัสดุที่นำมาก่อสร้าง มีเครื่องหมาย มอก. รับรองหรือไม่ การก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่ วิศวกรรับรองการก่อสร้างเป็นใคร ผู้ว่าจ้างคือ สตง. ต้องรับรู้รับทราบ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจึงเป็นอุทาหรณ์ ให้กับหน่วยงานทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะกรมโรงงานอุตสาหกรรม
ดร.ฉลาด กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดมีอะไรอยู่วงใน นอกเหนือไปจากผลกระทบจากแผ่นดินไหว หลังจากเกิดเหตุตึก สตง. ถล่มถึงวันนี้ ยังมีการแตกประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องออกมาเป็นระยะและเป็นกระแสรายวัน ตามที่มีการเปิดเผยข้อมูลทางสื่อโซเชียลทั่วไป เช่น มีการเปิดเผยถึงสนนราคาอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน อย่างโต๊ะ เก้าอี้ พรมปูพื้น โทรศัพท์ ผู้ถือหุ้นบริษัทคู่สัญญา นอมินี และลายมือชื่อผู้ควบคุมงานฯ ซึ่งเป็นประเด็นที่ กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนฯ และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ด้านวิชาการ จะได้ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะได้ร่วมกันตรวจสอบเชิงลึกต่อไป

ดร.ฉลาด กล่าวอีกว่า ตึก สตง. งบประมาณกว่า 2 พันล้านถล่ม จึงกลายเป็นปมร้อน ทำให้ สตง. กลายเป็นตำบลกระสุนตก ถูกเพ่งเล็งจากประชาคม และมีการตั้งคำถามว่า สตง. เป็นหน่วยงานด้านตรวจสอบ ทำไมปล่อยให้เกิดปัญหาอย่างนี้ขึ้นมา ทำไมไม่เข้มงวดตรวจสอบ ตั้งแต่ก่อนก่อสร้างหรือขณะดำเนินการก่อสร้าง ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเกิดวาทกรรม “ก่อนจะตรวจสอบคนอื่น ต้องตรวจสอบตัวเองก่อน” เพราะ สตง. เป็นหน่วยงานตรวจสอบ ต้องเป็นตัวอย่างให้กับข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทั้งนี้ กธม.ป.ป.ช. สภาผู้แทนฯ จะได้แสวงหาข้อเท็จจริง ช่วงที่ผ่านมาได้เชิญผู้ว่าการ สตง. และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าชี้แจงแล้วครั้งหนึ่งแต่ขอเลื่อน จึงมีกำหนดนัดหมายเข้ามาชี้แจงกันใหม่ในวันมาที่ 30 เม.ย. ที่จะถึงนี้
“โดยบุคคลที่เชิญมาชี้แจง อาทิ รมว.อุตสาหกรรม, อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ประเด็นชี้แจงประกอบด้วย การออกแบบก่อสร้าง การใช้วัสดุก่อสร้าง เหมาะสมหรือไม่ การควบคุมการก่อสร้าง และมาตรฐานวัสดุการก่อสร้างเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เพื่อนำไปสู่การเชื่อมโยงว่าส่อทุจริต หรือมีข้าราชการคนใดมีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่ จากนั้นจะทำการบันทึกทำรายงานเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาความกระจ่างให้กับสังคม และสร้างมาตรฐานให้กับสังคมไทย” ดร.ฉลาด กล่าว
