จากกรณีข่าว “พีช-สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์” ลูกนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังใน จ.ปทุมธานี ได้ขับรถหวาดเสียวอีกทั้งยังหัวร้อนขับปาดหน้ากระแทกรถกระบะ จนทำให้เสียหลักพุ่งชนไหล่ทาง ส่งผลให้คนขับรถกระบะซึ่งเป็นผู้สูงอายุบาดเจ็บสาหัส ต่อมา “กัน จอมพลัง” ได้ยื่นมือช่วยเคสดังกล่าวปรากฏว่า “สป.สายไหม” ก็ออกมาตอบโต้ด้วยการโพสต์ฟาดและปกป้อง “นายกเบี้ยว” พ่อของพีชพร้อมวิจารณ์ว่า กัน จอมพลัง ใช้วิธีเหมือนมาเฟีย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 “สป.สายไหม” หรือ “เสี่ยป่อง” ก็ได้โฟนอินเข้ามาชี้แจงผ่านรายการโหนกระแสและประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นในเทป หนุ่มร้อง! ถูกลูกนักการเมืองท้องถิ่นดัง ทำร้ายร่างกายกะโหลกยุบ

โดยระบุว่า “ผมมองว่าไม่เป็นธรรม และเขาก็เคลียร์กันหมดแล้ว ผมอยากปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายให้หมด ไม่อยากชี้นำเหมือนมันเข้าใจปะ ถ้าผมผิดเอาผมติดคุกได้เลย สำนักงานตำรวจแห่งชาติมี ตำรวจไซเบอร์มี ปล่อยให้เขาทำงานเถอะ ผมผิดผมยอมรับ เขามีข้อมูล และผมเคยชี้แจงมาแล้วเมื่อปี 63 มาแล้ว เรื่องนี้ถ้ามันจะเล่นผมช่วยเอาใหม่ ๆ มาเล่นเข้าใจมั้ย”

“ผมจะพูดกับพี่หนุ่มคนเดียวเท่านั้น ไม่พูดกับคนอื่น เพราะผมไม่ให้ราคาคนที่ทำตัวเป็นมาเฟีย พี่ครับตอนนี้ป๊าเขาก็ยอมแล้ว มันจะต้องการอะไร และที่ตนออกมาโพสต์ ก็เป็นการโพสต์ในฐานะประชาชนในพื้นที่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ ป๊า หรือ นายกเบี้ยว”

“ผมยอมรับนะทำอาชีพเป็นนักพนัน ชอบเล่นการพนัน ไปเล่นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมวยและอะไร ถามว่าเคยมีประเด็นเรื่องทำบ่อน หรือเรื่องทำเว็บพนันไหม ก็บอกได้ตรง ๆ ว่าไปให้ข้อมูลกับตำรวจมาหมดแล้ว อะไรที่ตนผิดประเทศนี้เขามีตำรวจ มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าผมผิดผมก็ยอมรับ ผมเป็นลูกผู้ชายและนักเลงพอเข้าใจปะ ยอมรับทุกข้อกล่าวหาถ้าผมผิด แต่ถ้าไม่ผิดต้องให้ความยุติธรรมผมด้วย ก็ต้องเข้าใจมุมผมด้วย”

ขณะที่ กัน จอมพลัง เล่านิทานหลังจากที่ สป.สายไหมวางสายไป โดยเล่าว่า “เมื่อประมาณปี 2565 ตนเองเคยประสานงานกับผู้กำกับการ สภ.ลำลูกกา เพื่อเข้าจับกุมบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง หลังจากบ่อนถูกจับกุมก็มีบุคคลหนึ่งที่มีชื่อเสียงพาเด็กน้อยคนหนึ่ง ท่าทางนอบน้อม เดินเข้ามาหา พยายามจะขอเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนั้นกันปฏิเสธที่จะเจรจา เพราะไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งโสมม ไม่ใช่คนที่ตีกินเพื่อหาเงินจากเรื่องแบบนี้ ไม่รับเคลียร์”…