เมื่อวันที่ 22 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย นายกอบศักดิ์ เพ็ญนุกูล หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย ได้นำชมความสวยงามอันน่าทึ่งของ “ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง” กล้วยไม้ดินหายากที่กำลังออกดอกสีขาวบริสุทธิ์แซมด้วยสีม่วงอ่อน ๆ อย่างงดงาม บนผืนดินปนทรายภายในสวนฯ โดยกล้วยไม้ชนิดนี้มีวัฏจักรการออกดอกที่แสนพิเศษ คือ จะปรากฏให้เห็นเพียงปีละครั้ง และแต่ละต้นจะบานอยู่ให้ชื่นชมเพียง 3-4 วันเท่านั้น

ที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งกว่าคือ ในปีนี้ “ว่านแผ่นดินเย็น” ได้พร้อมใจกันเบ่งบานเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา และยังออกดอกดกกว่าเดิมหลายเท่า จากที่เคยพบเห็นเพียง 5-10 ต้น กลับปรากฏให้เห็นมากถึง 20 ดอกในบริเวณเดียวกัน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก ทางเจ้าหน้าที่สวนฯ ได้ทำการกั้นพื้นที่ไว้เป็นพิเศษ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามได้อย่างใกล้ชิด

สำหรับ “ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง” มีประวัติการค้นพบที่น่าสนใจ โดยนายประสงค์ โพธิ์เอี่ยม เจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย เป็นผู้ค้นพบครั้งแรก และได้ส่งภาพถ่ายไปตรวจสอบยังหอพรรณไม้ จนกระทั่งนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเพิ่มเติม และยืนยันว่าเป็นกล้วยไม้ดินชนิดใหม่ของโลก ซึ่งในปี พ.ศ. 2556 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประกาศให้ “ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง” เป็นพืชชนิดใหม่ของโลกอย่างเป็นทางการ โดยมักจะขึ้นในป่าดิบชื้นที่มีดินปนทราย ปัจจุบันมีการค้นพบ “ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง” เพียง 2 แห่งเท่านั้น คือ สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว และสวนพฤกษศาสตร์เขาช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง

ความพิเศษอีกประการของ “ว่านแผ่นดินเย็น” คือ ลักษณะที่แตกต่างจากกล้วยไม้อื่น ๆ อย่างชัดเจน กล่าวคือ เมื่อมีดอกจะไม่ปรากฏใบ แต่เมื่อดอกโรยราก็จะผลิใบเขียวคล้ายใบตำลึง โดยมีหัวกลมเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ใต้ดิน ออกดอกในช่วงหน้าแล้ง และจะพักตัวแตกใบในช่วงหน้าฝน ทำให้บรรยากาศภายในสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายในช่วงวันหยุดยาวเต็มไปด้วยความคึกคัก นักท่องเที่ยวต่างพากันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพความงามอันน่าประทับใจของดอกไม้หายากชนิดนี้ไว้เป็นที่ระลึก

ดอกของ “ว่านแผ่นดินเย็น” มีลักษณะคล้ายดอกกล้วยไม้ แต่มีขนาดเล็ก โดยมีความยาวประมาณ 1-1.20 เซนติเมตร และก้านดอกสูงจากพื้นดินประมาณ 6 เซนติเมตร ในขณะนี้ ทางสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายกำลังดำเนินการส่งตัวอย่างไปเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อวัตถุประสงค์ในการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ ให้มีจำนวนดอกและต้นเพิ่มมากขึ้นจนเต็มพื้นที่ในอนาคต.