ใกล้โค้งสุดท้ายเลือกตั้งเทศบาล การต่อสู้เข้มข้นเพิ่มขึ้นตามลำดับ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดเลย มีการเลือกตั้งทั้งสิ้น 29 แห่ง โดยแบ่งเป็นเทศบาลเมือง 2 แห่ง คือ เทศบาลเมืองเลย และเทศบาลเมืองวังสะพุง ส่วนที่เหลือ 27 แห่ง เป็นเทศบาลตำบล โดยสำนักงาน กกต.เลย สรุปจำนวนผู้สมัครนายกเทศมนตรี มีจำนวนทั้งสิ้น 58 ราย จากทั้งหมด 23 ที่นั่ง ซึ่งเทศบาล 6 แห่ง จะมีการเลือกเฉพาะสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) โดยไม่มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เนื่องจากมีการเลือกตั้งไปก่อนหน้านี้ ด้วยสาเหตุนายกเทศมนตรีคนก่อนได้พ้นตำแหน่งจากการเสียชีวิต ลาออกก่อนครบวาระ และบางส่วนถูกดำเนินคดี ประกอบด้วย เทศบาลตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองเลย, เทศบาลตำบลนาอาน อำเภอเมืองเลย, เทศบาลตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง, เทศบาลตำบลปากปวน อำเภอวังสะพุง, เทศบาลตำบลนาด้วง อำเภอนาด้วง และเทศบาลตำบลธาตุ อำเภอเชียงคาน ส่วนผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติทั้ง 29 แห่ง มีจำนวนทั้งสิ้น 682 ราย ชิงชัย 312 ที่นั่ง
พื้นที่ที่น่าจับตามมอง ก็คงหนีไม่พ้นสนามใหญ่อย่างเทศบาลเมืองเลย และเทศบาลเมืองวังสะพุง ส่วนสนามเทศบาลตำบล เซียนการเมืองท้องถิ่นส่องสปอตไลต์ไปที่เทศบาลตำบลศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย ที่เป็นศึกสายเลือด ห้ำหั่นกันเองของสองพี่น้องตระกูลไชยนอก

เริ่มที่เทศบาลเมืองเลย ซึ่งเป็นพื้นที่ในตัวจังหวัด มีจำนวนประชากรหนาแน่นที่สุด มีผู้สมัครนายกเทศมนตรีลงชิงชัย 4 คน ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายฉัตรชัย ลีกระจ่าง อดีตนายกเทศมนตรีคนล่าสุด นำกลุ่มรักเลย ลงสมัคร สท. เต็มพิกัด 18 คน เพื่อกุมเสียงข้างมากในสภา ลงป้องกันแชมป์อีกสมัย มีความคึกคักสุดๆ ด้วยกระสุนดินดำ การติดตั้งป้ายมีจำนวนมากกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน โดยชูสโลแกน “เข้าใจ เข้าถึง ลงมือทำ”

ส่วนผู้ท้าชิง ผู้สมัครหมายเลข 2 นายพงษ์ธณนท์ ปัญญาประชุม กลุ่มเปลี่ยนเลย อดีตนายอำเภอหลายอำเภอ ถือเป็นนักการเมืองท้องถิ่นหน้าใหม่ แต่ทีมงานล้วนเขี้ยวลากดิน มีประสบการณ์ทางการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติอย่างโชกโชนร่วมงานหลายคน ชูสโลแกนเรียกคะแนนเสียงว่า “เขียวสวย สดใส สะอาด ปลอดภัย” ปลุกกระแสเมืองเลยต้องเปลี่ยนแปลง กลุ่มนี้ขยันลงพื้นที่ มาแรงไม่น้อย

ขณะผู้สมัครนายกหมายเลข 3 ไม่ใช่คนอื่นคนไกล นายวรพจน์ โสระสิงห์ อดีตรองนายก คณะผู้บริหารของนายฉัตรชัย ลีกระจ่าง ที่แยกตัวออกมาตั้งกลุ่ม “รักถิ่นไทเลย” มีจุดแข็งที่มี สท.ชุดเดิมมาร่วมทีมเกินกว่าครึ่งหนึ่ง และมีแรงหนุนแบบลับๆ จากตระกูลแสงเจริญรัตน์ ที่มีนายสมเจตต์ แสงเจริญรัตน์ สส.เลย เขต 4 พรรคเพื่อไทย ลูกชายของนายสมศักดิ์ แสงเจริญรัตน์ และนางจันทร์เพ็ญ แสงเจริญรัตน์ อดีต สส.เลย และอดีตนายกเทศมนตรีเมืองเลย เป็นลมใต้ปีก
ส่วนผู้สมัครหมายเลข 4 คือ นายยุทธพล เจียระพงษ์ หรือ เก๋ วิไลลักษณ์ อดีตผู้สมัคร สส.เลย พรรคประชาธิปัตย์ งานนี้มาเดี่ยว อิสระ ไม่มีกลุ่ม สท. คอยหนุน หวังเซอร์ไพร้ส์ แต่โอกาสฝ่าด่านอรหันต์เป็นไปได้ยาก แนวโน้มนายกเทศมนตรีเมืองเลยคนใหม่ คงเป็นแชมป์เก่าอย่างนายฉัตรชัย ลีกระจ่าง หรือนายกต๋อม เข้าวินอย่างเฉียดฉิว เส้นยาแดงผ่าแปด สุดมัน
ไปดูที่เทศบาลเมืองวังสะพุง คราวนี้บ้านใหญ่ “ทิมสุวรรณ” ส่งนางนันทนา ตันติทวีโชค หรือ นันทนา ทิมสุวรรณ วัย 59 ปี ลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรี ถือเป็นการลงสนามเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกในชีวิต หลังจากก่อนหน้านี้เป็น สส.เลย ในยุคพรรคพลังประชาชน เป็นอดีตภรรยาของนายธนเทพ ทิมสุรรณ อดีต สส.เลย และเป็นแม่ของนายศรันย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย เขต 2 พรรคเพื่อไทย ในปัจจุบัน ซึ่งบ้านใหญ่หลังนี้มีสองพรรค คือภูมิใจไทย และเพื่อไทย ผนึกกำลัง หญ้าแพรกก็ต้องหลีกทาง คู่แข่งหนึ่งเดียวอย่างนายไพบูลย์ เขมะประสิทธิ์ หรือนายกเบิร์ด วัย 44 ปี แชมป์เก่าต้องสะเทือน แต่ยังยืนหยัดสู้จนนาทีสุดท้าย โดยที่ยังมี สท. เก่าในกลุ่มหลายคนยังกลมเกลียวเหนียวแน่น และยังมีแรงหนุนจากนายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย เขต 1 พรรคเพื่อไทยด้วย แต่คงยากจะต้านทานพลังบ้านใหญ่ แพ้ไปแบบไม่มีลุ้น

สุดทางที่ด่านซ้าย เทศบาลตำบลศรีสองรัก กลายเป็นศึกสายเลือด ฟัดกันเองของสองพี่น้อง ระหว่าง “กำนันโจ้” นายประพัทธ์ชัย ไชยนอก อดีตกำนันตำบลด่านซ้าย วัย 60 ปี กับนายปราการ ไชยนอก หรือนายกน้อย แชมป์เก่า ต่างฝ่ายต่างวิ่งเข้าหานักการเมืองใหญ่ของจังหวัด เพื่อหวังแรงสนับสนุน ซึ่งอำเภอด่านซ้าย เป็นพื้นที่ครองอำนาจของบ้านใหญ่ สส.อ๋อง นายธนยศ ทิมสุวรรณ พรรคภูมิใจไทย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนายธนวุฒิ ทิมสุวรรณ อดีตนายก อบจ.เลย สนามนี้ แชมป์เก่ามีแนวโน้มน้ำตาตก
การเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับในจังหวัดเลย การสนับสนุนจากพรรคการเมืองแบ่งฝ่ายแบบชัดเจนไม่ปรากฏให้เห็น มีเพียงอิทธิพลของบ้านใหญ่เท่านั้น ที่เป็นตัวแปรสำคัญ ว่านายจะจิ้มเอาใคร แต่คาดว่านายกเก่าจะร่วง 14 คน จากทั้งหมด 23 ที่นั่ง.
….ศูนย์ข่าวเดลินิวส์อีสานตอนบน….