นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา มีมติอนุญาตให้บริษัทลูกของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) คือ บริษัท ทีซี 51 จำกัด ได้สิทธิวงโคจรดาวเทียมตำแหน่ง 51 องศาตะวันออก และ บริษัท ทีซี 42 จำกัด ได้สิทธิวงโคจรดาวเทียมตำแหน่ง 142 องศาตะวันออก โดยยื่นข้อเสนอผลตอบแทนให้แก่รัฐ 0.25% ของรายได้

ทั้งนี้ วงโคจร 51 องศาตะวันออก ยังอยู่ในขั้นต้น ระยะเวลาสิ้นสุดการจองวงโคจร (ไฟลิ่ง) จากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) วันที่ 25 เม.ย. 2573 ส่วนวงโคจร 142 องศาตะวันออก มีทั้งขั้นต้น และขั้นสมบูรณ์ โดยจะสิ้นสุดการจองวงโคจรวันที่ 19 ม.ค. 2572

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น ที่ประชุมบอร์ด กสทช. วาระพิเศษ วันที่ 21 ต.ค. 67 มีมติเห็นชอบ ทีซี สเปซ คอนเน็ค ใช้งานดาวเทียมประจำที่ ตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก โดยเสนอผลตอบแทนให้รัฐ ต่อปี อยู่ที่ 0.25% ของรายได้ จากนั้น ไทยคม ได้นำดาวเทียมไทยคม 9A มาประจำวงโคจร 50.5 องศาตะวันออก ได้สำเร็จแล้ว เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2567 นับเป็นหนึ่งในภารกิจที่เร่งด่วนและท้าทายของ ไทยคม ในการช่วยประเทศไทยรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรในตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก ก่อนที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 27 พ.ย. 2567

อย่างไรก็ตาม สำหรับตำแหน่งวงโคจร 51 และ 142 องศาตะวันออกนั้น บริษัท ทีซี สเปซ คอนเน็ค จำกัด บริษัทลูกของไทยคมก็ได้ยื่นข้อเสนอสิทธิวงโคจรดาวเทียมเช่นกัน พร้อมกับการขอวงโคจร 50.5 องศาตะวันออก แต่ บริษัท ทีซี สเปซ คอนเน็ค จำกัด ไม่ได้ยื่นหลักประกันสำหรับ 2 ตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากบริษัทระบุเงื่อนไขว่า จะใช้บริษัทใหม่ของไทยคมเข้ามาดำเนินการแทน ซึ่ง กสทช. เห็นว่าควรให้เฉพาะบริษัทที่ยื่นเข้ามาคือ ทีซี สเปซ คอนเน็ค เท่านั้น เพราะ กสทช. ยังไม่มีประกาศการโอนสิทธิของดาวเทียมไปให้บริษัทอื่น เหมือนการโอนคลื่นของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ จนล่าสุด ทางบอร์ดจึงมีมติให้ดังกล่าว