สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่าทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ยืนยัน การพบหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ หรือมหาวิหารนักบุญเปโตร ที่กรุงวาติกันซิตี นครรัฐวาติกัน ระหว่างการร่วมพิธีปลงพระศพ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ การพบหารือใช้เวลานานประมาณ 15 นาที และเป็นการที่ผู้นำทั้งสองประเทศพบหน้ากันอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่การโต้เถียงกันอย่างดุเดือดที่ทำเนียบขาว เมื่อปลายเดือนก.พ. ที่ผ่านมา


ด้านเซเลนสกีกล่าวว่า “หารือหลายเรื่องแบบตัวต่อตัว” กับผู้นำสหรัฐ รวมถึง “การหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข” กับรัสเซีย และการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนและน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นหลักประกันว่า จะไม่เกิดสงครามปะทุซ้ำอีก พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า แม้การพบหารือกันครั้งนี้ “อาจเป็นเพียงเชิงสัญลักษณ์” แต่ผลของการหารือ “อาจเป็นประวัติศาสตร์” หากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุผลร่วมกัน


แม้ทำเนียบขาวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการสนทนาระหว่างทรัมป์กับเซเลนสกี แต่ทรัมป์กล่าวเองในเวลาต่อมา ว่าการที่รัสเซียยังคงโจมตีเมืองใหญ่หลายแห่งของยูเครน ทำให้เขาสงสัยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ต้องการยุติสงครามจริงหรือไม่ หรือเขาจำเป็นต้องใช้มาตรการเพิ่มเติมกับอีกฝ่าย รวมถึง “การคว่ำบาตรแบบทุติยภูมิ” ที่รวมถึงการกดดันไม่ให้ประเทศอื่นทำธุรกรรมร่วมกับรัสเซีย


ขณะที่ทำเนียบเครมลินยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับการพบกันระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำยูเครน แต่ออกแถลงการณ์ว่า ปูตินพบหารือกับนายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลสหรัฐ ที่ทำเนียบเครมลิน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพบหารือครั้งที่ 4 แล้วระหว่างทั้งคู่ และปูตินกล่าวว่า พร้อมหารือโดยตรงกับยูเครน “โดยปราศจากเงื่อนไข”.

เครดิตภาพ : AFP