เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “ตามรอยช้างป่า” ได้โพสต์ภาพสุดน่ารักของฝูงนาก ที่กำลังลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี โดยระบุว่า ” วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน แต่เสียดายมาช้าไปนิดเลยยังไม่ได้ฉากแบบเต็มๆตัว ไว้ลุ้นกันใหม่ #นากเผือก พบเจอที่นี่เพียงที่เดียวในประเทศไทย ขอบคุณธรรมชาติยามเช้า 27/4/68 #ตามรอยช้างป่า #สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง #เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ” ก่อนมีขาวเน็ตเข้ามาคอมเมนท์ชื่นชมความน่ารักของฝูงนากกันอย่างไม่ขาดสาย อีกด้วย
ทั้งนี้ ภาพฝูงนากและนากเผือกนั้น คาดว่าน่าจะถูกถ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงปี 2552 จากห้วยขาแข้งสืบสาน ซึ่งระบุว่า #เรื่องไม่ลับฉบับนักวิจัย…ฝูงนากใหญ่ขนเรียบกับเจ้านากเผือกเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา “ฝูงนากใหญ่ขนเรียบ” นอนเล่นริมหาดทราย และพบว่ามีตัวหนึ่งเป็นนากเผือก ภาพนั้นถ่ายมาได้จากลำห้วยทับเสลา ใกล้ๆ กับสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่ง Yos Toyod หรือ “ช่างภาพเจี๊ยบ” ถ่ายเอาไว้ตั้งแต่ต้นหน้าแล้ง เมื่อปี พ.ศ. 2552 สิบกว่าปีมาแล้ว
ทุกวันนี้ นากเผือกตัวนั้นและนากฝูงนี้ยังอยู่ดีไหมในถิ่นอาศัยที่ใกล้คนมากขนาดนี้ หลังจากนั้นอีกสิบปีผ่านมา เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ก็เจอกับนากฝูงนี้ขณะเจ้าหน้าที่กำลังข้ามฝายเพื่อกลับบ้าน ก็ยังพบว่ามีนากเผือกร่วมฝูงออกมาให้เห็น 3 ตัว ( บางคนก็ว่า 4 ) ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นลูกหลานของเจ้าภาพตัวโน้นนั่นเอง ความเผือกเป็นลักษณะด้อย อาจจะทำให้เสียเปรียบในธรรมชาติ แต่เมื่อปรากฏจำนวนเพิ่มขึ้นมาอีกหลายตัวตลอดสิบปีที่ผ่านมา ก็เลยเป็นเรื่องน่าติดตามศึกษากันต่อไป
แม้จะชื่อว่า “สถานีเพาะเลี้ยงฯ” ใครต่อใครคิดว่าคงจะมีแต่สัตว์ในกรง แต่ตลอดเกือบ 20 ปี ที่ผ่านมา ไม่เพียงมีสัตว์ป่าตัวแทนของห้วยขาแข้งมาปรากฏให้เห็นโดยรอบพื้นที่ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ยังเป็นด่านหน้าของการใช้ประโยชน์ของชาวบ้านที่ซ้อนทับกับถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าจริง ๆ ด้วย หากไม่มีที่นี่ ป่าแถวนี้ก็คงเหลือสภาพไม่ต่างจากทุ่งแฝก หรือริมอ่างทับเสลา และหากไม่มีการจัดการการใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม ทันเวลา แรงกดดันมหาศาลก็คงจะถาโถม และเราก็อยากให้ช่วยกันสนับสนุนที่นี่.
ที่มา : ห้วยขาแข้งสืบสาน