รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) แจ้งว่า วันที่ 30 เม.ย. นี้ นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. จะแถลงผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ เดือน พ.ค.-ส.ค. 68 ตามมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน หลังจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ยื่นการปรับสูตรค่าไฟใหม่ เข้ามาให้บอร์ด กกพ. พิจารณา โดยสูตรค่าไฟใหม่ จะส่งผลให้บิลค่าไฟงวดใหม่ ที่จะเริ่มเดือน พ.ค. อยู่ที่หน่วยละ 3.99 บาท ตามกรอบนโยบายของรัฐบาล ลดลงจากที่ผ่านมา กกพ. ได้ประกาศค่าไฟงวดใหม่อยู่ที่หน่วยละ 4.15 บาท
ทั้งนี้ เบื้องต้นสูตรการปรับลดค่าไฟใหม่ ทาง กฟผ. จะต้องยืดระยะเวลาแบกรับต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าแทนประชาชนออกไปอีก จากสูตรเดิมกรณีตรึงค่าเอฟทีเท่ากับงวดปัจจุบัน (ม.ค.-เม.ย.) อยู่ที่หน่วยละ 4.15 บาท กฟผ. จะได้รับการทยอยชำระคืนภาระต้นทุนเงินเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนคงค้าง (เอเอฟ) คงค้างสะสมได้จำนวน 14,590 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.33 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อนำไปพิจารณาทยอยคืนภาระค่าเอเอฟให้แก่ กฟผ. และมูลค่าส่วนต่างของราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับค่าก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บ เดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 ของรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ ในระบบของ กฟผ. ต่อไป โดยคาดว่า ณ สิ้นเดือน ส.ค. 68 จะมีภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. รับภาระแทนประชาชนคงเหลืออยู่ที่ 60,474 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับราคาก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บเดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 ของรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ อีกจำนวน 15,084 ล้านบาท