เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ความคืบหน้าคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด กรณีการควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เผยผลการสอบปากคำพยานวิศวกร 38 ราย จากทั้งหมด 51 ราย พบว่ามีวิศวกร 28 ราย ให้การว่าถูกปลอมลายเซ็นในเอกสารควบคุมงาน ขณะที่ 8 ราย ยอมรับว่าเซ็นจริง
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 เตรียมนำส่งลายเซ็นของวิศวกรทั้งหมดไปยังกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เพื่อประกอบสำนวนคดีที่ตำรวจนครบาลได้รับแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ โดยหากพบการปลอมแปลงเอกสาร ตำรวจจะเป็นผู้พิจารณาดำเนินคดีอาญา ส่วน DSI อาจนำข้อมูลไปใช้ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 สำหรับวิศวกรที่ยังไม่เข้าให้ปากคำ จะมีการออกหมายเรียกซ้ำ
ขณะเดียวกัน คณะพนักงานสอบสวนตำรวจคดีอาคารถล่ม สตง. เปิดเผยว่า การสอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้องคืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเหล็ก ปูน และพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อส่งตรวจพิสูจน์มาตรฐานโครงสร้าง ซึ่งผลตรวจบางส่วนออกมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอผลตรวจด้านอื่นๆ และข้อมูลจากนักวิชาการประกอบกัน เช่นเดียวกับผลตรวจลายเซ็นวิศวกรที่ยังต้องรอการยืนยัน โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนเรื่องแนวทางการดำเนินคดีในสัปดาห์หน้า
ด้าน รศ.ดร.กิจพัฒน์ ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้าง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชี้แจงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การเก็บตัวอย่างคอนกรีตที่ไม่ครอบคลุม โดยระบุว่า ตนเองเป็นผู้แนะนำให้เก็บตัวอย่างกระจายในพื้นที่ต่างๆ แต่สภาพหน้างานจริงบริเวณเสาหลักและผนังลิฟต์มีความเปราะบาง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเก็บตัวอย่างที่สมบูรณ์ได้ จึงจำเป็นต้องเก็บตัวอย่างในจุดที่แข็งแรงที่สุด ทำให้ภาพที่ออกมาดูเหมือนการเก็บตัวอย่างกระจุกตัว