จากกรณีข่าวที่ร้านอาหารชื่อดังอย่าง “ไก่ทอง ออริจินัล” สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ได้ออกมาโพสต์เตรียมดำเนินคดีลูกค้าชาวต่างชาติที่ขโมยเมนูออกจากร้าน หลังถ่ายภาพและนำเมนูไปโดยไม่ขออนุญาต พร้อมเตือนวงการธุรกิจอาหารให้เคารพซึ่งกันและกันตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2568 ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โพสต์ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวระบุว่า “ขโมยเมนู ไม่ใช่แค่เสียมารยาท แต่มันคือความผิดทางอาญา ภาพจากกล้องวงจรปิดร้านไก่ทอง ออริจินัล สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 เผยให้เห็นเหตุการณ์ที่ลูกค้าชาวต่างชาติ 2 คน คือชายสวมเสื้อสีเทาและหญิงสวมเสื้อขาว ได้แอบถ่ายภาพเมนูอาหารและของหวานทุกหน้าอย่างละเอียด ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะนำเล่มเมนูซึ่งเป็นทรัพย์สินของร้าน ใส่ถุงของตัวเองแล้วเดินออกจากร้านไป โดยฝ่ายชายที่นั่งร่วมโต๊ะก็รับรู้พฤติกรรมนี้ตลอดเวลา”

“เมื่อตรวจสอบชื่อจากบิลค่าอาหาร พบว่าเป็นถึงเจ้าของธุรกิจร้านอาหารไทยชื่อดังในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีหลายสาขาในเครือของตน นี่ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด หรือพฤติกรรมขำ ๆ แต่คือการละเมิดสิทธิ์ ขาดจริยธรรม และเข้าข่ายลักทรัพย์ตามกฎหมายอาญา ทางร้านไก่ทอง ออริจินัล ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อย พร้อมขอเรียกร้องให้บุคคลที่เกี่ยวข้องแสดงความรับผิดชอบและส่งคืนทรัพย์สินโดยเร็ว”

“ขอเรียนว่า เล่มเมนูของร้านทุกเล่ม คือผลลัพธ์จากความตั้งใจ ทุนทรัพย์ และประสบการณ์ที่สะสมมายาวนาน ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะหยิบยืมหรือหยิบไปเลยได้ตามอำเภอใจ เราเชื่อว่า ความเคารพต่อกัน คือหัวใจของความเป็นมืออาชีพในวงการอาหาร และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนที่สำคัญในระดับนานาชาติ”

ความผิดอาญา ฐานลักทรัพย์ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334) : การนำเล่มเมนูขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็น “ทรัพย์ของผู้อื่น” ออกไปจากร้านโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ แม้จะดูเหมือนของมีมูลค่าไม่มาก แต่หากเป็นทรัพย์ที่มีไว้เพื่อการประกอบกิจการ ก็ถือว่ามีความหมายต่อธุรกิจ…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @ทนายคู่ใจ