ต้องยกให้เป็นอีกหนึ่งคู่รักคนบันเทิงที่หวานไม่จาง สำหรับ “ชาย-ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ” และ “วิกกี้ สุนิสา” สองคู่รักนักแสดงชื่อดัง ที่รักกันหวานชื่นจนมีสักขีพยานรัก 2 คนคือ “น้องตฤณ” และ “ไทเลอร์” ซึ่งตอนนี้สองสามีภรรยากลับมาตั้งใจฟิตร่างกายกันสุดๆ งานนี้พอได้เห็นบอดี้สุดเป๊ะก็เข้าใจเลยว่าทำไมทั้งคู่ถึงตกหลุมรักกันไม่เปลี่ยน

ล่าสุดในงานเปิดตัวครีมทาฝ้า Dr.JiLL ชาย-วิกกี้ ได้ออกมาเปิดใจเผยสาเหตุที่ต้องออกมาโชว์ร่างทอง โดยชาย เผยว่า “เกือบ 30 ปีที่ผ่านมาชายสะสมอะไรไว้เยอะมาก มันไม่ใช่แค่สะสมประสบการณ์อย่างเดียว มันสะสมน้ำหนักจนกลายเป็นเหมือนยอมที่จะอยู่ตรงนั้น ยอมที่จะใช้ชีวิตแบบนั้น แล้วพอวันนึงมันไม่ได้แล้ว มันไม่ใช่ว่าเราอายุเยอะขึ้นแล้วมันจะต้องปล่อยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่มันแย่ สุขภาพแย่ลงไปเรื่อยๆ เราลุกขึ้นมาทำอะไร และลองดูสักทีว่ามันจะเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือเปล่า พอมันทำได้สำเร็จคือทำไมเราไม่ทำตั้งแต่แรก คือแบบแล้วทำไมเราปล่อยให้ตัวเองเลยเถิดไปไกลขนาดนั้น มาถึงวันนี้คือเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของชีวิต ชายไม่เคยอยู่ในสภาพร่างกายแบบนี้ สุขภาพดีแบบนี้ ความมั่นใจแบบนี้มาก่อนด้วยซ้ำ

ซึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องดูแลตัวเอง คือนอนอยู่ที่บ้านนี่แหละ คือมันวนลูปอยู่แค่การกินและการนอน วันไหนที่ต้องออกไปทำงานก็ไม่มีแรง คือร่างกายมันไม่ไหวแล้ว เหมือนใช้ชีวิตยากมากๆ แต่จุดพลิกเลยจริงๆ ก็คือตอนที่ความตั้งใจของชาย ชายอยากจะสนิทกับลูกมากๆ ชายอยากจะใช้ชีวิต ให้ลูกมีความทรงจำและประสบการณ์ที่ดีกับพ่อกับแม่ อยากจะเป็นเพื่อนสนิทกับลูก แต่ชายทำไม่ได้ ในวันที่ลูกเดินขึ้นมาแล้วบอกว่าพ่อไปเล่นกัน คือชายไม่ไหวไม่มีแรง มันเป็นอย่างนั้นซ้ำๆ เรื่อยๆ ทุกวันจนชายรู้สึกว่ามันไม่ได้ แล้วคือสิ่งที่เราตั้งใจมันสวนทาง ก็เลยลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงให้ได้ ก็เลยเริ่มกลับมาดูแลตัวเองให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกกับครอบครัวให้ได้

ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นร่างทองถึงแม้ว่าเราจะวัยใกล้ 50 แล้วถ้าเราตั้งใจจริงๆ มันต้องทำได้ แล้วเดือนนึงผ่านไป มันเริ่มเห็นผล เริ่มสบาย ตัวเริ่มเบาขึ้น สุขภาพดีขึ้น คือผ่านมาแป๊บเดียวเราสามารถทำได้ขนาดนี้ เราไปต่อได้ไหมแล้วไปให้สุดทางเลยได้ไหม คือลองท้าทายกับตัวเองดูก็เลยตั้งเป้าร่างทองเลยแล้วกัน”

ชาย เผยต่อว่า “ตอนนี้กลายเป็นว่างานติดต่อเข้ามาเยอะ ซีรีส์ ละคร หนัง ที่ติดต่อมา บอกว่า พี่ชายต้องใช้ร่างใช้หุ่นนะคะ คือมันเปลี่ยนแปลงลักษณะงานที่เข้ามาเพราะว่าก่อนหน้านี้ก็จะเล่นเป็นพ่อที่หลายคนเคยเห็น แต่คือตอนนี้งานที่เข้ามาติดต่อเป็นแนวบู๊นะ โชว์หุ่นโชว์ร่างตลอด คือมันเปลี่ยนแปลงจริงๆ และเราก็พร้อมด้วย คือก่อนหน้านี้คือถ้าต้องให้ไปบู๊เราคงไม่ไหวแล้ว แต่ทุกวันนี้พอมีงานแบบนี้เข้ามาก็รู้สึกตื่นเต้นและตัวเองก็พร้อมมากๆ เลยในตอนนี้

คือเราก็ดีใจมากมันเปลี่ยนแปลงไปมากและในวัยที่รู้สึกว่ามันไม่ได้มีโอกาสอะไรแบบนี้แล้ว มันกลายเป็นว่าโอกาสใหม่ๆ เข้ามาเต็มไปหมดเลย คือมันเป็นบทที่มันท้าทายแล้วมันก็น่าจะสนุกมากๆ เพราะว่าเราลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ แต่มันก็เหมือนเป็นดาบสองคมเหมือนกันนะ เพราะมันทิ้งไปจากตรงนี้ไม่ได้แล้ว ชายพูดกับกี้หลายรอบแล้ว คือกี้เขาจะถามชายว่า ทำไมยังพยายามตั้งใจอยู่ตลอดเวลา คือชายไม่อยากให้เห็นภาพนี้ (ร่างทอง) อยู่บนทีวี แต่พอไปเจอตัวจริงแล้ว มันไม่ใช่คือไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเพราะชายตั้งใจจริงๆ แล้วพอมันสำเร็จจริงๆ ชายก็อยากให้มันอยู่ตรงนี้เพราะว่าชายแฮปปี้มากกับชีวิต ตอนนี้มีแรงสุขภาพดีเล่นกับลูกได้ มีเอ็นเนอร์จี้งานเงินใหม่ๆ

ทุกวันนี้ความสุขก็อยู่กับครอบครัวได้เห็นลูกมีความสุขเขาวิ่งเล่นกันอยู่ แค่นั้นก็พอแล้ว มันไม่ได้อยากออกไปหาเพื่อน ไปหาความสุขข้างนอก และเพราะฉะนั้นชายพยายามรักษาสิ่งที่ชายอยู่ให้ดีที่สุด คือมันมีสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับชาย”

วิกกี้ เผยว่า “เหมือนได้สามีใหม่จริงๆ ค่ะ ตอนแรกคิดว่าเหมือนได้แฟนคนเก่ากลับมาเหมือนตอนคบกันแรกๆ คือไม่เคยนะคะ ตั้งแต่คบกันมา อยู่ด้วยกันมา 18 ปี ตอนนั้นเขามีความอวบอยู่แล้ว ซึ่งอันนี้เป็นร่างใหม่ที่ไม่เคยเห็นเลย ซึ่งดีมาก คือเรียกว่าดีมากๆ ก็เห็นตามภาพแล้วรู้ จริงๆ พี่ชายเป็นแรงบันดาลใจไม่ใช่แค่กี้ แต่เป็นแรงบันดาลใจให้คนรอบข้างให้เพื่อนๆ กลุ่มกี้ด้วย คืออยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย คือเขาเห็นจากที่พี่ชายทำได้และเห็นกี้ทำตาม มันเริ่มจากที่กี้รู้สึกว่าถ้าเขาทำได้ในวัยนี้ ที่รู้สึกว่าเราอยากที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยนี้ เราก็โอเคเพราะว่าทำเดิมๆ แล้วมันไม่ได้ผล เราก็เลยรู้สึกมาลองสักตั้งหนึ่งแล้วมันดีจริงจริงเหมือนที่เห็น

พอพี่ชายมีร่างทองก็ไม่ได้หวงค่ะ คืออยากให้ทุกคนได้เห็น อยากโชว์อยากอวดมากกว่า พี่ชายเขาก็จะเขินเพราะเขาไม่เคยโชว์ มันเป็นอะไรที่เป็นสิ่งใหม่ที่เขาได้ แต่เราภูมิใจมาก ล่าสุดไปทะเลเสื้อไม่ใส่ เขาก็เดินฉีดครีมกันแดดให้ตัวเงาๆ เขาก็บอกกี้เองว่าชายจะโดนฉีดให้หมดขวดเลย ซึ่งเราก็ไม่หวงเพราะเราชอบ พี่ชายเป็นคนน่ารักจริงๆ มันอยู่ที่ตัวเขา เขาไม่เคยเป็นคนที่ทำให้เราเป็นห่วง เขาไม่ซุกซนกับคนอื่น เขาซนแค่กับเรา

แล้วเดี๋ยวนี้เรื่องโลกสองใบมันเยอะมากแต่เราก็ค่อนข้างมั่นใจ อย่างข่าวลือที่เกิดขึ้น เซนส์ของเราก็คือคิดว่าไม่มี พี่ชายเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายเสมอ ก็เลยยังไม่มีความกังวล แต่ถ้ามีจริงๆ แปลว่าเขาต้องเก่งมากๆ คือพี่ชายเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกเลย ซึ่งบางทีพี่ชายเขามีกลุ่มเพื่อนที่เก่าแก่ที่เรียนกันมาตั้งแต่ต่างประเทศ เวลาเขาชวนไปไหน พี่ชายก็ไม่ค่อยอยากจะไป เขาอยากกลับบ้านอยากอยู่กับภรรยากับลูก ซึ่งกี้ก็บอกเขาว่าบางทีก็ไปบ้างก็ไม่ผิดนะ เพราะตัวเราก็ชอบไปหาเพื่อนเรา แต่คือมันเป็นนิสัยเขาจริงๆ อยู่แล้ว เป็นคนที่ชอบอยู่บ้าน”