เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมทีมงานเดินทางเข้าให้กำลังใจ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 ความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยมี น.ส.อรุณศรี วิชชาวุธ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้แทนรับเรื่อง

ทนายอั๋น ระบุว่า วันนี้ตนเดินทางมาให้กำลังใจดีเอสไอเพราะด้วยสถานการณ์กลุ่มบุคคลระดับกรม ระดับกระทรวงที่เข้ามาคล้ายกับจะสกัดยับยั้ง ไม่ให้ความร่วมมือนับตั้งแต่หนังสือฉบับแรกจากกรมการปกครองที่ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอจนกระจายไปตามผู้ใหญ่บ้าน นอกจากตนมาให้กำลังใจอธิบดีดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอแล้ว ตนขอประกาศว่า ตนและพี่น้องประชาชนจะไม่ยอมให้อะไรก็ตามมาขวางมาสกัดกั้นการทำหน้าที่ของดีเอสไอ เพื่อดีเอสไอจะได้ทำคดีฮั้วต่อไป บังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด นำกระบวนการฮั้ว สว. 138+2 และคนเบื้องหลังส่งศาลให้ได้ โดยพี่น้องประชาชนจะเป็นแบ๊กให้ดีเอสไอเอง

ทนายอั๋น เผยอีกว่า ส่วน สว. ที่ชอบออกมาเคลื่อนไหว ขอบอกว่าอย่ามาเก่งกับอธิบดีดีเอสไอ อย่าเก่งกับข้าราชการประจำ อย่าเก่งกับหน่วยงานราชการ แน่จริงขอมาวัดตัวต่อตัวกับตนแทน เอาหลักฐานมากางมาคุยกัน ซึ่งตนเชื่อว่าการแจ้งข้อกล่าวหาโดยดีเอสไอ และ กกต. จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เพราะทราบว่าพรุ่งนี้จะมีการออกหมายเรียกเพื่อเรียกสอบสวนและให้การชี้แจง จากนั้น กกต. จะวินิจฉัยซึ่งคงใช้เวลาไม่นานเพื่อพิจารณายื่นไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

“สำหรับเรื่องเส้นทางการเงิน การฟอกเงินของกลุ่มฮั้ว สว. จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงและหลักฐานที่มีการเกี่ยวข้องเรื่องเงิน ซึ่งจะมีความผิดตามกฎหมายของ ปปง. คือ ฐานฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่จะต้องมีการอายัดทรัพย์ของบุคคลนั้น ๆ ที่เชื่อว่าได้มาจากการฟอกเงิน” ทนายอั๋น กล่าว