เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีหนังสือคำสั่ง วิทยุในราชการด่วนที่สุด เลขที่ ศปก.0051/421 ลงวันที่ 11 พ.ย. ถึง พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 และให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส) และ พล.ต.อ.วิษณุ ปราสาททองโอสถ จตช. ทราบ ใจความว่า ตามที่ปรากฏข่าวเผยแพร่ตามสื่อมวลชนต่างๆ กรณีนายสหชัย หรือโจ้ เจียรเสริมสิน ได้รับการปล่อยตัวไปหลังจากพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยมีการให้ข้อมูลว่า เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมนายสหชัย หรือโจ้ ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 60/2564 ลง 19 ก.พ.64 ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน

ตร.เตรียมเห็นแย้งอัยการคดีฟอกเงิน ‘เสี่ยโจ้’ ตรวจไม่พบหมายจับคดีปลอมเอกสาร
จับ ‘เสี่ยโจ้’ เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนภาคใต้ อ้างสนิท ‘บิ๊กก้อง’ แต่เจอหน้ากลับไม่รู้!

แต่เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจส่งตัวนายสหชัย หรือโจ้ แก่พนักงานอัยการแล้ว นายสหชัย หรือโจ้ได้รับการปล่อยตัวไป โดยที่ไม่ได้ส่งตัวนายสหชัย หรือโจ้ เพื่อไปบังคับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดปัตตานี ในความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ความผิดเกี่ยวกับดวงตรา เนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจตรวจสอบในสารบบแล้วพบว่า มีหมายจับ นายสหชัย หรือโจ้ ของศาลจังหวัดสงขลา เพียงหมายจับเดียว โดยไม่พบหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี เจ้าหนักงานตำรวจจึงมิได้นำตัว นายสหชัย หรือโจ้ ส่งไปยังศาลจังหวัดปัตตานี

ต่อมาวันที่ 11 พ.ย.64 สำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกข่าวแจกสื่อมวลชนยืนยันว่า ศาลจังหวัดปัตตานีส่งหมายจับ นายสหชัย หรือโจ้ เจียรเสริมสิน ให้ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และผกก.สภ.บ้านแหลม ไปตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.57 นั้น

จากกรณีดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ จึงให้ ผบช.ภ.9 ตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว แล้วรายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน หากตรวจสอบแล้วปรากฎว่า มีกรณีเป็นที่สงสัยว่า ข้าราชการตำรวจผู้ใดกระทำผิดวินัย หรือมีพฤติการณ์การกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิดอาญาให้ ผบช.ภ.9 ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทันที จึงแจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง.