สวัสดีวันหยุดกับสาระยานยนต์จาก อ้วนซ่า แอบซิ่ง อีกเช่นเคย ในช่วงที่ผ่านมาข่าวเรื่องนิสสันในญี่ปุ่นใกล้จะม้วนเสื่อ อยู่ในการจับจ้องของสื่อกลุ่มยานยนต์ และกลุ่มเศรษฐกิจ แต่อย่างที่เขาว่ากัน “ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป” เพราะนิสสันในประเทศจีน ได้เปิดตัวรถยนต์ซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดออกมา และหมายมั่นปั้นมือว่าจะใช้มันพลิกฟื้นสถานการณ์ ได้ไม่มากก็น้อย!

รถซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้มีชื่อว่า ตงฟง นิสสัน เอ็น 7 (Dongfeng Nissan N7) เป็นรถที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมที่ใช้ร่วมกัน ระหว่างแบรนด์ ตงฟง หนึ่งใน 4 บริษัทรถยนต์ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ด้านรูปลักษณ์ของมันนั้นเรียกว่า กลมกล่อม เรียบเนียนสบายตา สไตล์รถไฟฟ้าพิมพ์นิยมจากประเทศจีน โดยมีจุดเด่นที่ไฟหน้าทรงบุมเมอแรง ที่มาพร้อมฟังค์ชั่น Magic Light Interaction หรือไฟอัจฉริยะที่สามารถสื่อสารด้วยกราฟฟิก และตัวอักษรได้ ทั้งไฟหน้า และไฟท้าย โดยไฟหน้าจะมีหลอด LED มากถึง 710 ดวงส่วนไฟท้ายนั้นก็จะมากถึง 882 ดวง เลยทีเดียว

ส่วนขนาดตัวถังของ N7 นี้ถือได้ว่าใหญ่พอตัว เพราะยาวถึง 4.93 เมตร และมีฐานล้อยาวถึง 2.915 เมตร เรียกว่ายาวกว่า บีวายดี ซีล (BYD Seal) และ ดีพอล แอล 07 (Deepal L07) ราวๆ 4-5 นิ้ว! และสูสีกับ โตโยต้า แคมรี่ (Toyota Camry) และฮอนด้า แอคคอร์ด (Honda Accord) แต่หากวัดฐานล้อกันแล้ว ก็ยังยาวกว่ารถจากญี่ปุ่นทั้งสองรุ่น กว่า 3-4 นิ้วเช่นกัน และแน่นอนว่าการที่ออกแบบให้เป็นรถไฟฟ้าตั้งแต่ต้นทำให้มันมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำมาก เพียง 0.208 เท่านั้น

ด้านการออกแบบห้องโดยสารนั้นเรียบง่ายสะอาดตา และด้วยฐานล้อที่ยาวเป็นพิเศษ รถรุ่นนี้มีจุดขาย พื้นที่วางขาด้านหลังโอ่อ่าเป็นพิเศษ และนอกจากนั้นยังมีจุดขายพิเศษคือ เบาะนั่งหน้าแบบอัจฉริยะ ที่ออกแบบมาให้นั่งสบายในชื่อว่า A.I. Zero Pressure Cloud Carpet Seat หรือเบาะนั่งที่ไร้แรงกด นั่งสบายเหมือนนั่งบนเมฆ และสามารถปรับนวดคนขับได้อัตโนมัติ ด้วยระบบเอไอ ผ่านทางเซนเซอร์เบาะ 49 จุด และนอกจากนั้นยังมาพร้อมลูกเล่น ตู้เย็น/ร้อน ที่ปรับอุณหภูมิได้ ตั้งแต่ -6 จนถึง 55 องศาเซลเซียสบริเวณคอนโซลกลาง

ด้านขุมกำลังนั้นตั้งเป้าให้ เป็นรถสำหรับครอบครัว ไม่ได้เน้นให้หวือหวา ทุกรุ่นย่อยจะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยมี มอเตอร์ไฟฟ้าให้เลือก 2 แบบคือ 217 แรงม้า และ 271 แรงม้า โดยจะมีแบตเตอรี่ 2 ขนาดคือ 58 และ 73 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยรุ่นแบตฯเล็กก็จะวิ่งได้ไกลสุด 510 กิโลเมตร ในขณะรุ่นแบตฯใหญ่ ก็จะได้ระยะทาง 625 กิโลเมตร ซึ่งน้ำหนักตัวนั้นก็จะอยู่ในช่วง 1,949-1,962 กิโลกรัม เรียกว่าไม่ได้หนักมาก หากคิดในมาตรฐานรถไฟฟ้า

ด้านราคานั้นในจีนเปิดราคามาแบบเร้าๆ 551,000 บาท ถึง 590,000 บาทเท่านั้น รอลุ้นกันว่า นิสสันบ้านเราจะนำรถรุ่นนี้เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับสาวกในบ้านเรารึเปล่า หลังจากที่ไม่มีการขายรถซีดานไซส์นี้ในบ้านเรามาตั้งแต่ปี 2020 แล้วขอรับ!