การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อพัฒนาประเทศไทย ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) ได้เข้าร่วมประชุมในฐานะองค์กรหลักด้านนโยบายดิจิทัลของประเทศ โดยมี นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสผู้ร่วมก่อตั้งสภาดิจิทัลฯ ม.ร.ว.นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ และ ดร.อธิป อัศวานันท์ ผู้อำนวยการสภาดิจิทัลฯ เข้าร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของภูมิภาค ที่พร้อมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สภาดิจิทัลฯ ได้เสนอ 5 แนวทางยุทธศาสตร์ ดังนี้ ข้อเสนอที่ 1 ส่งเสริมการใช้งาน AI อย่างเต็มศักยภาพ มุ่งผลักดันการประยุกต์ใช้ AI ในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง (Transformation) ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่อนาคต

ข้อเสนอที่ 2 พัฒนา AI ของชาติ (Sovereign AI) ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ (Affordability) โดยการสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างเป็นระบบ เช่น GPU (Graphics Processing Unit) และ Open Source Model เพื่อยกระดับความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ภายในประเทศอย่างเป็นระบบ และเปิดกว้างให้ประชาชนและทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงเครื่องมือ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมจากกรณี Deepseek ซึ่งสามารถพัฒนา Open Source AI ระดับสูงที่นำไปต่อยอดในหลากหลายอุตสาหกรรม

ข้อเสนอที่ 3 ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และจริยธรรมในการใช้งาน AI (Ethical AI) เน้นการสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคม ด้วยการพัฒนากรอบกฎหมายและข้อบังคับที่ทันสมัย เพื่อป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด เช่น อาชญากรรมทางไซเบอร์ การปลอมแปลงข้อมูล และการคุกคามความเป็นส่วนตัว พร้อมส่งเสริมการพัฒนา “AI อย่างมีจริยธรรม” และยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางข้อมูล

ข้อเสนอที่ 4 ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้พัฒนา AI  โดยเสนอแนวทางดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกโดยให้สิทธิประโยชน์เพื่อสนับสนุนให้เข้ามาลงทุนตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในประเทศไทย พร้อมประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถของ AI Talents และระบบการศึกษาของประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก

ข้อเสนอที่ 5  คือ เพิ่มเป้าหมายการลงทุนด้าน AI ของภาครัฐ (Government Spending) โดยเสนอให้พิจารณาตั้งเป้าหมาย อย่างน้อย 0.05% ถึง 0.1% ของ GDP ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อเร่งสร้างความสามารถในการแข่งขัน และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ของภูมิภาค ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ 

ทั้งนี้สภาดิจิทัลฯ ในฐานะองค์กรหลักในการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลของประเทศ จะยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลาง AI ระดับภูมิภาค สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน