นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวทางการบริหารงานหลังเข้ารับตำแหน่งว่า จะมุ่งให้ความสำคัญใน 3 เรื่อง คือ 1.ลูกค้า ด้วยการสร้างแบรนด์ที่ได้รับความวางใจจากลูกค้า 2.เทคโนโลยี ด้วยการพัฒนานวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เพื่อคนไทยทุกคน และ3. ทีม ด้วยการหล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กรที่มีหัวใจ คือ ลูกค้า โดย ภารกิจทั้งสามนี้จะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนความสำเร็จระยะยาว และช่วยให้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ก้าวสู่ เทค คอพานี และการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ได้รับความเชื่อใจจากลูกค้าอย่างแท้จริง
“ 2 ปี ที่ผ่านมาหลังการควบรวม เราทำได้ดี แต่ยังมีหลายสิ่งที่พัฒนาได้ดีกว่านี้ โดยใน 2 ปี ต่อจากนี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจน โดยคู่แข่งของเรา ไม่ได้มีพียงรายเดียว แต่ยังหมายถึงบริษัท เทคระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ติ๊กต็อก กูเกิล เป็นต้น ที่ต้องเราต้องโพกัส ไม่ใช่เฉพาะในประเทศเท่านั้น โดยสิ่งแรกต้องทำให้ บริษัทมีกำไร และ ทรูและ ดีแทค มีศักยภภาพ เป็นผู้นำในการทำบทบาทนี้ โดยจะมีการลงทุนรวมประมาณ 28,000-30,000 ล้านบาท โดยรวมทั้งเรื่องเน็ตเวิร์ค ดาต้าเซ็นเตอร์ และเอไอ”

นายซิกเว่ กล่าวต่อว่า เป้าหมายใน 100 วันจากนี้ ที่จะต้องเห็น คือ ผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ต้องดีกว่าไตรมาสแรก จะต้องโต 2-3% และทั้งปีจะต้องมีกำไร ก่อนหักภาษี หักดอกเบี้ยและค่าเสื่อม ต้องเติบโตได้ 8-10% ซึ่งที่ผ่านมาตัวเลขอาจจะยังไม่เป็นที่พอใจมากนัก โดยต้องควบคุมต้นทุนและรายจ่ายต่างๆ และผลักดันให้มีการเติบโตในหลายๆธุรกิจ การขยายธุรกิจในเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์ การพัฒนาเน็ตเวิร์ค ที่เร็วขึ้น สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ามากขึ้น และการนำเอไอมาพัฒนาการทำงานและบริการให้ลูกค้า และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่หลอมร่วมกันเป็นหนึ่ง และต้องเป็นบริษัท ที่คนอยากเข้ามาทำงานด้วย
ส่วนเรื่องการแข่งขันที่มองว่า เหลือ 2 รายในตลาดไม่มีการแข่งขันนั้นอยากให้มองว่า การมี 2 บริษัท ก็เป็นคู่แข่ง และไม่ใช่เรื่องราคาแพงขึ้น แต่ให้มองว่าเป็นบริการที่ดีขึ้น การประมูลคลื่นความถี่ก็จะโปร่งใส และแข่งขันอย่างเสมอภาค แต่ยังพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะ กสทช .กำลังจะจัดให้มีการประมูลเร็วๆนี้