สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ว่า ตามข้อมูลของศูนย์นานาชาติเพื่อการพัฒนาภูเขาแบบบูรณาการ (ไอซิมอด) ธารน้ำแข็งยะลา ซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 5,170-5,750 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บนหุบเขาลังตัง ทางตอนเหนือของเนปาล หดตัวลง 66% และลดลง 784 เมตร นับตั้งแต่ปี 2517

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ธารน้ำแข็งยะลาอาจหายไปจากโลก ภายในช่วงปี 2583 หากภาวะโลกร้อนยังคงดำเนินต่อไป และอาจเป็นธารน้ำแข็งแห่งแรก ๆ ของเนปาล ที่มีการประกาศว่า “ตายแล้ว”

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พระสงฆ์ต่างโบกธงสวดมนต์เพื่อประกอบพิธีที่ธารน้ำแข็งยะลา ซึ่งมีเทือกเขาหิมาลัยตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง โดยมีแผ่นหิน 2 แผ่น เผยให้เห็นพร้อมข้อความรำลึกเป็นภาษาเนปาล อังกฤษ และทิเบต

พระสงฆ์ชาวเนปาลประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อไว้อาลัยให้กับธารน้ำแข็งยะลา บนเทือกเขาฮินดูกูช

บนแผ่นหินแกรนิตมีการเขียนข้อความว่า “อนุสรณ์สถานแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อยืนยันว่า เราทราบว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นและต้องทำอะไร มีเพียงคุณเท่านั้นที่รู้ว่าเราทำอะไรลงไป” ซึ่งข้อความดังกล่าว เขียนโดยนายแอนดรี สแนร์ แม็กนาสัน นักเขียนชาวไอซ์แลนด์ และได้ถูกจัดแสดงที่งานไว้อาลัยธารน้ำแข็งแห่งแรกของโลก ในไอซ์แลนด์ด้วย

ยะลาเป็นธารน้ำแข็ง 1 ใน 7 แห่งของเทือกเขาฮินดูกูช ซึ่งมีความยาว 3,500 กิโลเมตร และได้รับการตรวจสอบเป็นประจำทุกปีมานานกว่า 10 ปี ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ธารน้ำแข็ง ที่เปรียบเสมือน “ตำราเรียนแบบเปิด” สำหรับนักวิจัย และนักวิทยาธารน้ำแข็งรุ่นเยาว์.

เครดิตภาพ : AFP