ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่มี “เส้นสีน้ำตาลเล็กๆ” ปรากฏบนเล็บของผู้หญิงคนหนึ่งจะนำไปสู่อาการป่วยที่หายากซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ลอเรน โคลท์ซ ครูสาวเจ้าของเรื่องและผู้ป่วยโรคหายากในรายงานข่าวครั้งนี้กล่าวว่า เธอสังเกตเห็นรอยขีดสีน้ำตาลบนเล็บของนิ้วโป้งมือซ้ายเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว และคิดในใจว่า “เออ แปลกดี” แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ไม่ควรละเลยเส้นเล็กๆ ที่ดูเหมือนไม่มีความสำคัญนี้
“หากคุณมีรอยเส้นแนวตั้งสีเข้มขึ้นตามเล็บ คุณควรไปตรวจดูก่อน” ดร.ลินด์เซย์ ซูบริตสกี้ แพทย์ผิวหนังจากมิสซิสซิปปี กล่าวเตือนผู้ติดตามบัญชีติ๊กต็อกของเธอซึ่งมีจำนวน 1.6 ล้านคน
“เธอแนะนำให้ฉันไปพบแพทย์ผิวหนัง แต่ฉันต้องเป็นทั้งแม่และครู จึงละเลยเรื่องนี้และปล่อยให้มันผ่านไป” โคลท์ซกล่าวกับคลินิกคลีฟแลนด์
หลังจากผ่านไปเกือบปี โคลท์ซกล่าวว่า แพลตฟอร์มติ๊กต็อกซึ่งขึ้นชื่อว่ามีแต่คนให้คำแนะนำที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ กลับช่วยให้เธอตัดสินใจทำอะไรสักอย่างกับเส้นเล็กๆ ที่ขึ้นบนเล็บของเธอ
“ฉันบังเอิญเจอคลิปของแพทย์ผิวหนังบอกว่า ‘ถ้าคุณเห็นสัญญาณเหล่านี้บนเล็บของคุณ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด’ และฉันก็คิดว่า โอ้ ฟังดูไม่ค่อยดีเลยนะ”
โคลท์ซไปพบแพทย์ผิวหนังที่คลินิกคลีฟแลนด์ และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเธอเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา

“ผลการตรวจชิ้นเนื้อของเธอแสดงให้เห็นว่ามีมะเร็งชนิดเมลาโนมาขั้นเริ่มต้น ซึ่งหมายถึงเซลล์มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาอยู่ในชั้นบนของผิวหนังเท่านั้น มันยังไม่ลุกลาม ดังนั้นผลการรักษาของเธอจึงน่าจะออกมาดีมาก” ดร.แอลลิสัน วิดิมอส แพทย์ผิวหนังที่คลินิกคลีฟแลนด์กล่าว
ดร.วิดิมอสเสริมว่า มะเร็งเมลาโนมาที่โคลท์ซเป็นนั้นแตกต่างจากมะเร็งเมลาโนมาชนิดอื่นๆ งานวิจัยชี้ให้เห็นว่ามันไม่ได้เกิดจากการสัมผัสแสงแดด และเนื่องจากอาการของโรคมักจะทำให้เกิดความสับสนกับอาการของโรคอื่นๆ จึงควรไปพบแพทย์ทันทีที่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ
ปัจจุบัน โคลท์ซได้ผ่าตัดเอานิ้วโป้งข้างซ้ายออกทั้งหมด แต่เธอก็กล่าวว่าตอนนี้เธอมีความสุขกับสุขภาพของตัวเอง และคอยกระตุ้นให้คนอื่นๆ ดูแลตัวเองด้วย
“ฉันคิดถึงลูกๆ มากตลอดการรักษา ดังนั้น ฉันจึงอยากจะขอร้องทุกคนว่า โปรดตรวจสอบทุกอย่างให้ดี อย่าผัดวันประกันพรุ่ง กันไว้ก่อนดีกว่า” ครูสาวกล่าว
ที่มา : thehill.com
เครดิตภาพ : Cleveland Clinic