จากกรณี นายสิรดนัย พลายด้วง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หรือ “สจ.กอล์ฟ” ลูกชาย “สมยศ พลายด้วง” หรือ โกถึก สส.เขต 3 สงขลา ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผบ.หมู่ กก.ตชด.43 ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีตำบลพะวง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง ภายหลังเข้ามอบตัวก่อนโดนแจ้งข้อหาต้องคดีอาญาและพาตัวไปฝากขัง ท่ามกลางกระแสสังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับตัว สจ.กอล์ฟ หลายเรื่องทั้งวุฒิการศึกษาที่ระบุว่าไม่ได้จบการศึกษาจริงและเรื่องของการถอดถอนให้พ้นจาก “สจ.” ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เปิดเผยถึงประเด็นนี้ว่า ในส่วนของเรื่องวุฒิการศึกษา ต้องให้ทาง กกต.ส่งรายละเอียดมาว่าในการสมัครได้แสดงวุฒิการศึกษาอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้หามีข้อสงสัยก็สามารถตรวจสอบได้ เพราะเรื่องวุฒิการศึกษาจะมีสถาบันการศึกษาที่ออกรับรอง ผู้ที่รับสมัครดูว่าวุฒิการศึกษามาจากที่ไหนยังไง ถ้าเป็นเอกสารเท็จก็จะไปอีกหลายเรื่อง ส่วนประเด็นเรื่องคดีความ ให้ดำเนินคดีเป็นไปตามขั้นตอน เพราะว่าในเรื่องของการสั่งคดี ก็ยังอยู่ในกระบวนการขึ้นอยู่กับฝ่ายตุลาการว่าพิจารณาคดีถึงไหนและดำเนินคดีกันไป

สำหรับประเด็นใหญ่ที่เป็นกระแสสังคมที่เรียกร้องให้ถอดถอน สจ.กอล์ฟ ออกจากการเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลานั้น การถอดถอนเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัดปี 2540 ซึ่งมีข้อบัญญัติในเรื่องของสภาว่าในมาตรา 7 อนุ 11 ว่า ในกรณีที่สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ดำเนินการหรือปฏิบัติเสื่อมเสียต่อคุณธรรมจริยธรรม ที่ทำให้เสื่อมเสียต่อการดำรงตำแหน่งสมาชิกภาพของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก็จะให้อำนาจของสภาโดยมาตรา 7 อนุ 11 ให้สมาชิกสภาสามารถเข้าชื่อได้ 1 ใน 3 ของสมาชิก และยื่นญัตติเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดท่านใดท่านหนึ่ง

โดยต้องมีการประชุมและลงมติซึ่งจะต้องใช้มติ 3 ใน 4 ของสมาชิกฯ ในขณะนั้น ที่จะมีมติให้พ้นสมาชิกภาพ นี่คือการดำเนินการของฝ่ายนิติบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น ตามมาตรา 77 มีหน้าที่กำกับและมีหนังสือส่งไปให้ทางสภาดำเนินการในเรื่องนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย.