สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ว่านายราชนาถ สิงห์ รมว.กลาโหมอินเดีย กล่าวว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) “ควรทบทวน” การอนุมัติสินเชื่อวงเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33,398.50 ล้านบาท) ให้แก่ปากีสถาน เนื่องจากรัฐบาลอิสลามาบัด “เป็นรัฐสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย” และอาจมีการใช้เงินที่ได้รับจากไอเอ็มเอฟ ไปกับการสนับสนุน “โครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มก่อการร้าย”
ด้านไอเอ็มเอฟซึ่งอนุมัติเงินกู้ดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ สิงห์เพิ่งกล่าวว่า คลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถาน ควรอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเคร่งครัด โดยทบวงพลังงานประมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลอิสลามาบัดไร้ความรับผิดชอบด้านนิวเคลียร์อย่างมาก ด้วยการใช้วาทกรรมนิวเคลียร์ข่มขู่รัฐบาลนิวเดลี
ขณะที่อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา กระทรวงการต่างประเทศปากีสถานออกแถลงการณ์ ว่าไอเออีเอควรไปตรวจสอบอินเดียมากกว่า เนื่องจากเป็นประเทศซึ่งเป็นตลาดมืดของวัตถุดิบเกี่ยวกับนิวเคลียร์ และกัมมันตรังสีในอินเดีย
อย่างไรก็ตาม นายอิชาค ดาร์ รมว.การต่างประเทศปากีสถาน กล่าวว่า ทหารระดับสูงของทั้งสองประเทศพบหารือกันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และทั้งสองประเทศเห็นพ้องขยายระยะเวลาของการหยุดยิง ออกไปจนถึงวันที่ 18 พ.ค. นี้เป็นอย่างน้อย
ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานถึงจุดตึงเครียดที่สุดในรอบหลายสิบปี นับตั้งแต่เกิดเหตุกราดยิงที่เมืองพาฮาลแกม ในภูมิภาคแคชเมียร์ภายใต้อธิปไตยของอินเดีย เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย.
เครดิตภาพ : AFP
