จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Diana Jandai Pakakong โพสต์ภาพกระดูกบรรพบุรุษและญาติพี่น้องถูกคนร้ายรื้อค้น ทำลายโกศและขวดโหลเก็บกระดูกบริเวณกำแพงด้านทิศตะวันออกหน้าโบสถ์วัดวิทยานุกิจ หมู่ 1 ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี พร้อมข้อความระบายความรู้สึกเจ็บปวดที่ “เดนมนุษย์” กล้าทำลายแม้กระทั่งกระดูกคนตายเพื่อหวังเงินเพียงไม่กี่บาท พร้อมตั้งคำถามถึงปัญหา ยาเสพติด ในชุมชนที่รุนแรงจนกระทบถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางดึกวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ซึ่งตรงกับวันพระ

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 21 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง วัดวิทยานุกิจ หรือวัดบ้านหมูม่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีพระครูประภากร สาธุกิจ เจ้าอาวาสวัด, นายชัยชนะ รูปเหมาะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1, นายคำรณ ชัยฤทธิ์ สารวัตรกำนัน ต.หมูม่น และนางจันใด ผกากอง ผู้เสียหายที่โพสต์เรื่องราว นำตรวจสอบความเสียหาย

จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้ย่องเข้าวัดมาทุบฝาปิดช่องเก็บกระดูก ทำลายโกศและขวดโหลที่บรรจุกระดูกออกมาเททิ้ง เพื่อเขี่ยหาเงินเหรียญที่ญาติมักจะใส่ไว้ในธาตุบริเวณกำแพงรั้ววัด โดยมีช่องเก็บกระดูกเสียหายถึง 60-70 ช่อง กระดูกบางส่วนญาติได้เก็บกลับเข้าธาตุแล้ว แต่บางส่วนยังคงปะปนกันจนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นของใคร

นางจันใด ผกากอง ผู้เสียหาย เล่าด้วยความเสียใจว่า อัฐิในโกศของเธอมี 6 คน ทั้งพ่อแม่ พี่ชาย น้าชาย และตายาย ซึ่งเธอจะมาทำบุญไหว้อัฐิเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาก็เพิ่งมาทำบุญสรงน้ำธาตุบรรพบุรุษ เธอกล่าวว่ารู้สึกเสียใจอย่างมากที่คนร้ายกล้าทำเช่นนี้ ไม่ใช่แค่ตนเอง แต่ยังกระทบกับคนในชุมชนจำนวนมาก

“ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะกล้าทำลายแม้กระทั่งกระดูกผี มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจและลบหลู่ความเชื่อทางศาสนาพุทธและบรรพบุรุษของเรามาก” นางจันใดกล่าว พร้อมเชื่อว่าสาเหตุมาจาก ยาเสพติด ที่ทำให้คนเสพมีอาการหลอนและขาดสติ จนกล้าทำเรื่องที่ต่ำช้าเช่นนี้ “คนที่ทำต้องติดยาเสพติดจนมีปัญหาทางประสาท หรือสมองคิดไม่ได้ น่าจะหลอน อยากทำอะไรก็ทำ และคิดเหมือนคนปกติไม่ได้แล้ว” เธอกล่าวเสริมและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายเพื่อคืนความสุขและความปลอดภัยให้คนในชุมชน

นายชัยชนะ รูปเหมาะ ผู้ใหญ่บ้านบ้านหมูม่น เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็น ครั้งที่ 3 แล้ว และคนร้ายจะเลือกก่อเหตุในช่วงกลางดึกที่ตรงกับวันพระเสมอ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นช่วงปลายปีที่ผ่านมา เสียหายประมาณ 20 ช่อง ครั้งที่ 2 ช่วงวันพระใหญ่ต้นเดือนนี้ เสียหายเกือบ 20 ช่อง และครั้งล่าสุดนี้ เสียหายเกือบ 40 ช่อง รวม 3 ครั้ง มีช่องเก็บกระดูกเสียหายไปเกือบ 70 ช่อง

คนร้ายจะเลือกก่อเหตุบริเวณหน้าโบสถ์ฝั่งทิศตะวันออก เพราะอีกฝั่งหนึ่งติดกับกุฏิเจ้าอาวาสที่มีสุนัขเฝ้าอยู่ และจะเอาโกศและขวดโหลออกมาเทเพื่อเขี่ยหาเงินเหรียญ 5-10 บาท โดยเชื่อว่าในช่วงสงกรานต์และวันพระใหญ่ ญาติจะมาทำบุญและใส่เงินเหรียญไว้

ด้านพระครูประภากร สาธุกิจ เจ้าอาวาสวัดฯ ขอเตือนคนที่ทำสิ่งไม่ดีนี้ว่า “การที่เราทำลายกระดูกของคนที่ล่วงลับไปแล้ว ถือเป็น บาปเป็นกรรมหนักมาก เพราะกระดูกเหล่านี้ชาวบ้านเก็บไว้บูชา เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของลูกหลาน” ท่านกล่าวว่าทรัพย์สินในโกศมีเพียงเงินเหรียญเล็กน้อย แต่สิ่งที่คนร้ายทำนั้นเป็นการทำร้ายจิตใจลูกหลานที่ต้องมาเห็นกระดูกปู่ย่าตายายถูกเทกระจัดกระจาย “มันไม่เหมาะสม เราเป็นชาวพุทธ ต้องดูแลรักษาวัด เพราะเรานับถือศาสนาพุทธ และอยากให้เลิกทำแบบนี้ มันเป็นบาปเป็นกรรม” ท่านยังบิณฑบาตให้ผู้กระทำเลิกพฤติกรรมนี้เสีย เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ดีและทำร้ายจิตใจผู้คนอย่างยิ่ง.