จากกรณีที่ Binance แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซี่ เช่น บิตคอยน์ และเหรียญ หรือโทเคนดิจิทัลอื่นๆอีกมากมาย ได้ประกาศยกเลิกให้บริการ “ภาษาไทย” ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.64 ในเวลา 13.00 น.เป็นต้นไป (ตามเวลาประเทศไทย) ให้เหตุผลว่าเนื่องจากขัดต่อกฎหมายของไทยนั้น

Binance คือใคร?

Binance หรือ ไบแนนซ์ เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2017 จัดตั้งโดย Changpeng Zhao ชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Binance ในปัจจุบัน

Binance ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจในไทยหรือไม่?

ที่ผ่านมา Binance ได้เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย

โดย ก.ล.ต. ได้ออกแถลงการณ์ อ้างอิงจาก เมื่อวันที่ 5 เม.ย.64 ฉบับที่ 70/2564 ระบุว่า “ก.ล.ต. เปิดเผย Binance ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย พร้อมเตือนประชาชนและผู้ลงทุนควรระมัดระวังหากถูกชักชวนให้ใช้บริการ เนื่องจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย”

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งเบาะแสข้อมูลและตรวจพบว่าได้มีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนใช้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของ Binance ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ของ Binance แอพพลิเคชั่น และเฟซบุ๊ก BinanceThaiCommunity

ก.ล.ต. ขอแจ้งว่า Binance ยังไม่ได้เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) จึงขอให้ประชาชนและผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวัง หากถูกชักชวนซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าว ก.ล.ต. จึงมีหนังสือไปยัง Binance และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ชี้แจงข้อมูลต่อ ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ขอย้ำว่า ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ผู้ที่โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือแสดงตนต่อบุคคลทั่วไปในการชักชวน หรือให้บริการซื้อขาย แลกเปลี่ยน รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายดังกล่าว ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th และแอพพลิเคชั่น “SEC Check First” นอกจากนี้ หากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่สายด่วนศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต. โทร. 1207 เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึก และในกรณีที่ตรวจพบว่ามีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต. มีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป ( ที่มา : https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=8908 )

ย้อนคำ ก.ล.ต.กล่าวโทษ Binance

ในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 2 ก.ค.64 ฉบับที่ 125/2564 ระบุว่า “ก.ล.ต. กล่าวโทษ Binance ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล)”

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งเบาะแสและตรวจพบว่า Binance ได้มีการให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการจับคู่หรือหาคู่สัญญาให้ หรือการจัดระบบหรืออำนวยความสะดวกให้ผู้ซึ่งประสงค์จะซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถทำความตกลงหรือจับคู่กันได้ผ่านเว็บไซต์ของ Binance โดยมีการชักชวนให้ประชาชนและผู้ลงทุนไทยเข้าใช้บริการไม่ว่าจะทางเว็บไซต์ของ Binance และเพจเฟซบุ๊ก Binance Thai Community และเมื่อวันที่ 5 เม.ย.64 ก.ล.ต. ได้มีหนังสือไปยัง Binance ให้ชี้แจงข้อมูลต่อ ก.ล.ต. แต่ Binance ไม่ได้ชี้แจงภายในระยะเวลาที่กำหนด

การกระทำของ Binance ข้างต้นเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 26 ซึ่งเป็นความผิดและมีโทษตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.ก.ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 500,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน  ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษ Binance ต่อ บก.ปอศ. เพื่อให้สอบสวนและดำเนินคดีต่อไป

อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวนและการสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ

ก.ล.ต. ขอย้ำว่า ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ผู้ที่ให้บริการซื้อขาย แลกเปลี่ยน รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายดังกล่าว ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ผู้ซื้อขายสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th และแอพพลิเคชั่น “SEC Check First” นอกจากนี้ หากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่สายด่วนศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต. โทร. 1207 เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป ( ที่มา : https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=9016 )

ทั้งหมดเป็นคำกล่าวโทษของก.ล.ต.ที่มีต่อ Binance ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เนื่องจาก Binance ยังไม่ได้รับใบอนุญาตใด ๆ ดังนั้นยังต้องติดตามดูว่า Binance จะดำเนินการอย่างไรต่อไปในการทำธุรกิจในประเทศไทย หลังจากเริ่มปรับเปลี่ยนให้เข้ากับกฎหมายในไทยเรื่องการยกเลิกใช้ ภาษาไทย ในเร็วๆนี้