CLP GROUP ภายใต้วิสัยทัศน์ของ วัชรา ลี้โกมลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท CLP เน้นการพัฒนาเกษตรกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนการปูพื้นฐานการศึกษาและการวิจัย ร่วมกับภาครัฐ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีผลต่อการยกระดับผลผลิตทางการเกษตรและความยั่งยืนในอนาคต โดยในปี 2567 ธุรกิจของ CLP เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 400% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตนี้คือการพัฒนาการจำหน่ายเครื่องจักรกลทางการเกษตร ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่มีความต้องการสูงในการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรและการใช้เทคโนโลยีในการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

CLP ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรกรและชุมชน ผ่านการสร้างศูนย์การเรียนรู้ “สวนพี่แดง” ที่มีจุดมุ่งหมายในการให้ความรู้แก่เกษตรกรและผู้บริโภคเกี่ยวกับกระบวนการปลูก-แปร-ปรุง ผลิตภัณฑ์เกษตร ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการผลิตที่ยั่งยืน ศูนย์แห่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเกษตรกร ยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และเข้าใจเทคโนโลยีที่ใช้ในการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับ เกษตรกร การเข้าร่วมโครงการนี้จะช่วยให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาวิธีการทำการเกษตรของตนให้ทันสมัยและยั่งยืนมากขึ้น ในขณะที่ เยาวชน ผู้เข้าร่วมจะได้รับความรู้และแรงบันดาลใจในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และอาจพัฒนาเป็นผู้นำในอนาคตที่มีความรู้ด้านการเกษตรที่ยั่งยืน ส่วน องค์กร หรือ บริษัทต่าง ๆ ที่เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการนำ หลักการเกษตรยั่งยืน ไปปรับใช้ในธุรกิจของตน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับองค์กรและสังคม ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ปีนี้

โดยโครงการ Green Academy Leader และ “สวนพี่แดง” จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งหวังที่จะสร้าง ผู้นำ ที่มีความรู้และความรับผิดชอบในการพัฒนาเกษตรกรรมไทยให้เติบโตในทิศทางที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและสังคม

นอกเหนือจากนี้กลุ่มบริษัท ซี แอล พี (CLP Group) ยังสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและการศึกษาวิจัยด้านการเกษตร โดยเฉพาะเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและนวัตกรรมเกี่ยวกับข้าว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ ผ่านการมีส่วนร่วมในโครงการ “AGRITHON by ARDA Season 2” ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนรายใหญ่ สำหรับปีนี้ CLP Group ได้ทำการสนับสนุนโครงการนี้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยรับหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนหลักในหมวด Post-Harvesting & Future Rice ซึ่งมุ่งหวังผลักดันให้เกิดการต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ และส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรายได้อย่างยั่งยืน ย้ำถึงบทบาทของ CLP ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องจักรเกษตร พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชน นักวิจัย และเกษตรกรรุ่นใหม่จากทั่วประเทศ ได้ร่วมแสดงศักยภาพและแข่งขันเพื่อชิงทุนสนับสนุนรวมกว่า 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแนวคิดให้กลายเป็นนวัตกรรมที่ใช้ได้จริงในอนาคต

ในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมทางการเกษตรและเครื่องจักรกลทางการเกษตรของ CLP เป็นการตอบโจทย์การยกระดับวิถีชีวิตของเกษตรกร ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพและเพิ่มรายได้ ดังนั้นจึงต้องเป็นการใช้เครื่องจักรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรและช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ได้มีการพัฒนาเครื่องโม่แป้งที่จะเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์เกษตร

เกี่ยวกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในมุมมองของ CLP มีหลักการสำคัญสามประการ ได้แก่ เศรษฐกิจ, สังคม, และสิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่า 3 Pillars ที่ช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและมีความสมดุลในระยะยาว การพัฒนาเกษตรกรรมที่ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ทาง CLP Group มุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนผ่านโครงการ “Together We Rise” โดยยึดหลักการเริ่มต้นจาก “จุดศูนย์กลางของชุมชน” อย่างโรงเรียนและวัด ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้และหล่อหลอมคุณค่าทางสังคม โครงการนี้เน้นการเสริมสร้างศักยภาพด้านการศึกษา เกษตรกรรม และคุณภาพชีวิตของประชาชนในระดับฐานราก

โดยในปี 2025 CLP ตั้งเป้ามอบ เครื่องสีข้าวให้แก่โรงเรียนและชุมชนจำนวน 20 แห่ง เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนรู้และเครื่องมือประกอบอาชีพ พร้อมทั้ง มอบวัวให้กับชุมชนอีก 15 แห่ง เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น กิจกรรมที่ผ่านมา เช่น การส่งมอบเครื่องสีข้าวให้กับโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา และการมอบวัวให้กับเกษตรกรในจังหวัดร้อยเอ็ด รวมถึงวัดในจังหวัดอ่างทอง ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโอกาสให้ชุมชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและทรัพยากรที่จำเป็น โดยไม่ต้องลงทุนเอง

สำหรับงาน  Farm Expo 2025 :  Empowering A Better Life ในปีนี้ ถูกจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ ร่วมถึงผู้คนผู้สนใจ ผ่านการนำเสนอ Total Solution  ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูก การแปรรูป การปรุง และการขาย เพื่อยกระดับเกษตรกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยภายในงานปีนี้  CLP จะมีการมอบรางวัล CLP Awards ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมและการพัฒนาในด้านเกษตรกรรม ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพในการผลิต

CLP ได้สร้าง Ecosystem ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากแหล่งผลิตเกษตรกรไทยไปจนถึงมือผู้บริโภค โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นแนวทางของแบรนด์ Sisod ภายใต้การบริหารของ CLP Group ที่ตั้งเป้าหมายตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์สดใหม่ มีคุณภาพ และเชื่อถือได้ โดยเริ่มต้นจากการคัดสรรวัตถุดิบที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและการสนับสนุนเกษตรกรไทยที่ปฏิบัติการเกษตรยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแค่ให้ราคาที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร แต่ยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความสดใหม่และคุณภาพสูงในทุกขั้นตอนของการผลิต