เรียกได้ว่า SJM Resorts, S.A. (SJM) เป็นส่วนหนึ่งของมาเก๊าและมีรากฐานมาอย่างยาวนาน เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของมาเก๊า พร้อมทั้งส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภายใต้หลักการ “การตอบแทนและการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนมาเก๊า อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับโลกภายนอก” เสมอมา ในปีนี้ SJM Resorts, S.A. (SJM)จึงได้ฤกษ์เปิดตัวพื้นที่แห่งใหม่ของศิลปะและวัฒนธรรมที่สำคัญ “แกลเลอรีศิลปะ แกรนด์ ลิสบัว พาเลซ” ณ Grand Lisboa Palace Resort Macau

โดยแกลเลอรีศิลปะแห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของ Grand Lisboa Palace Resort Macau และเปิดตัวด้วยนิทรรศการแรกภายใต้ชื่อ “The Lisboa, Stories of Macau” ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และเต็มไปด้วยเสน่ห์ของมาเก๊าที่สั่งสมมายาวนานกว่า 500 ปี ผ่านการแลกเปลี่ยนผสมผสานระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตกตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงและชิง นิทรรศการนี้รวบรวมทั้งสถานที่สำคัญ ประเพณีพื้นถิ่น เรื่องเล่าในเมือง ไปจนถึงประสบการณ์ส่วนตัว และเทคโนโลยีอินเทอร์แอคทีฟเพื่อพาผู้ชมย้อนเวลาสู่ประวัติศาสตร์และการหลอมรวมทางวัฒนธรรมของมาเก๊า

นางเดซี โฮ กรรมการผู้จัดการของ SJM กล่าวว่า“แกลเลอรีศิลปะ แกรนด์ ลิสบัว พาเลซ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SJM ในการ ‘ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวด้วยวัฒนธรรม และส่งเสริมวัฒนธรรมผ่านการท่องเที่ยว’ สำหรับนิทรรศการแรกภายใต้ชื่อ “The Lisboa, Stories of Macau” เราได้สร้างเวที

ทางวัฒนธรรมที่เปิดกว้างเพื่อส่งเสริมพลังทางวัฒนธรรมและซอฟต์พาวเวอร์ของมาเก๊า พร้อมกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับมรดกท้องถิ่น บอกเล่าเรื่องราวของมาเก๊าผ่านเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เรายังเปิดโอกาสให้เหล่านักสร้างสรรค์ท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลายและมีคุณภาพยิ่งขึ้น”

นิทรรศการ “The Lisboa, Stories of Macau” ให้ความสำคัญกับผู้คน ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถานที่สำคัญต่างๆ ของมาเก๊า ผสมผสานองค์ประกอบที่หลากหลายและสร้างสรรค์ เพื่อนำเสนอเรื่องราวของมาเก๊าในมุมมองที่ซับซ้อนและมีมิติหลายด้าน ผู้ชมจะได้สัมผัสกับการเล่าเรื่องของมาเก๊าผ่านมุมมองของคนมาเก๊าเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ศิลปิน นักกีฬา พ่อค้าในอดีต คนลากสามล้อ พนักงานโรงแรม หรือแม้แต่นักเรียน ผ่านทางสื่อหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ โมเดลจำลอง โปรเจกชันเสมือนจริง ถนนจำลอง สิ่งของหายาก รวมถึงเทคโนโลยี     อินเทอร์แอคทีฟล้ำสมัย ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สัมผัสและโต้ตอบกับบุคคลในประวัติศาสตร์อีกด้วย

นิทรรศการเริ่มต้นด้วยภาพยนตร์พาโนรามา 180 องศา ความยาว 5 นาที ถ่ายทอดวิวัฒนาการของมาเก๊า ตั้งแต่การเป็นเมืองท่าการค้าในยุคราชวงศ์หมิง สู่การเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศภายใต้การปกครองของโปรตุเกส และการพัฒนาอย่างรวดเร็วหลังกลับคืนสู่มาตุภูมิ บอกเล่าผ่านรูปภาพของมังกรอันเป็นสัญลักษณ์ของ เรื่องราว “ลูกหลานแห่งมังกร” แห่งมาเก๊า 

ตั้งแต่บริเวณด้านหน้าของพื้นที่นิทรรศการ ผู้ชมจะได้พบกับเรือมังกรทองอันงดงามที่ทำด้วยไม้ คอยให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งการบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของมาเก๊าในห้องจัดแสดงหลักแบ่งเป็น 8 โซน ถ่ายทอดเรื่องราวของเมืองมาเก๊าในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ 1) วัดกวนอิม 2) โรงแรมลิสบัว มาเก๊า 3) โรงละคร Dom Pedro V 4) Tap Seac 5) ซากประตูโบสถ์เซนต์พอล 6) Casa Garden 7) วัดอาม่า และ 8) San Ma Lo แต่ละโซนบอกเล่าเรื่องราวและแง่มุมอันหลากหลายของมาเก๊าผ่านการใช้มัลติมีเดียและเทคโนโลยีอินเทอร์แอคทีฟเสมือนจริง นอกจากนั้นยังมีบริเวณโซนพื้นที่อินเทอร์แอคทีฟ ที่นำเสนอเรื่องราวของไอคอนิคแลนด์มาร์คสำคัญของมาเก๊ากว่า 30 แห่ง รวมไปถึงเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์กว่า 50 เรื่องราวที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

ภายในแกลเลอรียังมีพื้นที่จัดแสดงที่เรียกว่า “The Lisboa Collection” ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในการนำเสนอนิทรรศการต่างๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งในการเปิดตัวครั้งแรกนี้ เริ่มต้นด้วยคอลเลกชัน “สมบัติจีน: ศิลปะราชสำนักสมัยราชวงศ์ชิง” ซึ่งจัดแสดงผลงานหายากจากคอลเลกชันของทาง SJM และ Sociedadede Turismo e Diversões de Macau, S.A. (“STDM”)เช่น บัลลังก์ไม้ลงรักของจักรพรรดิ์คังซี เป็นต้น 

นอกจากนั้น ยังมีร้านของที่ระลึกที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ อันถ่ายทอดเรื่องราวและดีไซน์ของมาเก๊า ซึ่งเป็นการร่วมมือกับศิลปินและแบรนด์อิสระท้องถิ่นต่างๆ รวมไปถึงยังมีคอลเลคชั่นของหนังสือศิลปะสุดหรูอันโด่งดังระดับโลกอย่าง Taschen ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับที่นี่อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น นิทรรศการแห่งนี้ยังเปิดโอกาสและเปิดพื้นที่พิเศษให้กับเหล่าศิลปินและหลากองค์กรจากทั่วโลก ร่วมจัดแสดงผลงานศิลป์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการศึกษาศิลปะ และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอีกด้วย

นิทรรศการ “The Lisboa, Stories of Macau” ไม่เพียงเชื่อมโยงผู้ชมกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมของมาเก๊าแต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สืบสานมรดกท้องถิ่นอันล้ำค่านี้ต่อไป อีกทั้งช่วยขับเคลื่อนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระดับนานาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของจีนในการสร้างความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรม และยกระดับความแข็งแกร่งทางวัฒนธรรมของประเทศอย่างยั่งยืน..