“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า วันที่ 6 มิ.ย. 2568 กระทรวงการคลังกำหนดลงนามสัญญาเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank, ADB) วงเงิน 2,440 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 หรือ M7ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ของกรมทางหลวง(ทล.)

โดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอกู้เงินADBโครงการM7ส่วนต่อขยายฯ กรอบวงเงิน 68.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,440 ล้านบาท มีสาระสำคัญ อาทิ เห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้โครงการฯ และใช้อนุญาโตตุลาการระงับข้อพิพาท อนุมัติให้รมว.การคลัง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยในสัญญาเงินกู้โครงการฯ เป็นต้น

หลังจากลงนามสัญญาเงินกู้แล้ว กรมทางหลวงจะเชิญผู้รับจ้างที่ชนะการประกวดราคาด้วยวิธีนานาชาติ มาลงนามสัญญาก่อสร้างต่อไป ล่าสุดกรมทางหลวง ได้ประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคา ได้แก่ บริษัท Sino-Thai Engineering & Construction Public dampany Limited (STECON) ที่เสนอราคาและยืนยันราคาค่าก่อสร้าง 2,651,988,700 บาท ได้นำเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณา และผู้มีอำนาจได้อนุมัติการว่าจ้างเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาก่อสร้าง 1,080 วันหรือประมาณ 36 เดือนเปิดบริการปี 2571

ทั้งนี้ครม.อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2565 วงเงิน 4,508 ล้านบาท ทล.ปรับแบบก่อสร้างและลดวงเงินเหลือ 3,092 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้าง 2,787 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 304 ล้าน ใช้เงินกู้ ADB 2,440.ล้านบาท (78.90%) อีก21.10%ใช้เงินงบประมาณปี 2568จำนวน 652ล้านบาท

รูปแบบเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรไปกลับ ระยะทาง 1.920 กม.มีจุดเริ่มต้นกม.148+328 ถัดจากด่านเก็บเงินอู่ตะเภา ข้ามทางรถไฟสายตะวันออก ขนานแนวรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีจุดสิ้นสุดเป็นทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัด ทล.3 (ถนนสุขุมวิท) เชื่อมต่อถนนโครงข่ายเข้าอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่สนามบินอู่ตะเภา และมีทางบริการระดับพื้นรองรับการสัญจรใต้ทางยกระดับ ก่อสร้างช่องทางเลี้ยว และทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัด ทล.3

พร้อมขยายทล.3จาก 4 ช่องจราจร เป็น 8 ช่องจราจรระยะทาง 5.650 กม. จะช่วยลดเวลาการเดินทางสู่สนามบินอู่ตะเภาจากเดิม 5 กม. เหลือ 1.92 กม.โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง(ฟรี) เนื่องจากอยู่นอกด่านอู่ตะเภา และไม่สร้างด่านเพิ่ม

สำหรับผู้ยื่นข้อเสนอทั้งหมด 3 ราย บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือITD และบริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง