จากกรณี มีเหตุคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์มากกว่า 3 คน บุกปล้นตู้คอนเทเนอร์เก็บของกลางบุหรี่ไฟฟ้า ที่กรมศุลกากรเช่าเอาไว้ ภายในโกดังสเตเดี้ยม ย่านท่าเรือคลองเตย กทม. ระหว่างนั้น นายบุญนาค (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี รปภ.ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย พยายามเข้าขัดขวาง ฝ่ายคนร้ายรีบขับรถตู้หลบหนี ทำให้ นายบุญนาค ต้องขี่จยย.ไล่ติดตาม จังหวะถึงถนนใหญ่ ฝ่ายคนร้ายได้ฉวยโอกาสขับรถถอยหลังพุ่งชนก่อนทับร่าง นายบุญนาค จนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ตึกนิติเวช รพ.จุฬาฯ นายจิระศักดิ์ อายุ 40 ปี บุตรชาย และ น.ส.หนึ่งฤทัย อายุ 30 ปี หลานของผู้เสียชีวิต พร้อมกลุ่มญาติเดินทางมาเพื่อติดต่อรับร่าง นายบุญนาค โดย น.ส.หนึ่งฤทัย เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ตนมองว่าเป็นความจงใจของกลุ่มคนร้ายที่จะถอยชน นายบุญนาค ให้เสียชีวิต เนื่องจากรถตู้คันดังกล่าว ขับออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปแล้ว แต่เมื่อเห็นว่า นายบุญนาค พยายามขี่จยย.ไล่ตามจึงจงใจขับถอยหลังมาชน

ทั้งนี้ พวกตนทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย จึงพาพยานในที่เกิดเหตุ 3 คนไปชี้ตัว เพื่อยืนยันว่าเป็นคนก่อเหตุจริง แต่ทางตำรวจยังไม่มีการจับกุมแจ้งข้อกล่าวหา โดยระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะดำเนินคดีได้ ทำให้พวกตนรู้สึกไม่สบายใจในการทำงาน เพราะตัวผู้ต้องสงสัยนั้นก็คือคนในพื้นที่ และเชื่อว่ามีเบื้องหลังเป็นกลุ่มคนมีสี ซึ่งอาจจะรู้จักกับตำรวจ เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ ที่บุคคลทั่วไปจะรู้ว่าภายในตู้ดังกล่าวเก็บบุหรี่ไฟฟ้าของกลางนอกจากเจ้าหน้าที่ เลยรู้สึกกังวลกลัวว่า นายบุญนาค จะเสียชีวิตแบบไม่ได้รับความเป็นธรรม

พวกตนจึงขอร้องเรียนวิงวอนผ่านสื่อมวลชน ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความยุติธรรมให้กับครอบครัว ขอให้จับคนร้ายให้ได้ เพราะนายบุญนาค เป็นเสาหลักของครอบครัว ถือเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง และตอนนี้ก็ไม่มีใครมาดูแลย่า ทั้งนี้ครอบครัวจะนำร่าง นายบุญนาค ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองเตยนอก เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ปณิธิ ชาอุ่น ผกก.สน.ท่าเรือ เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า คดีนี้มีคนร้าย 5 คน หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนนำผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน 1 คน ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ อยู่ระหว่างหาพยานหลักฐานเอาผิด รวมทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลือด้วยจะติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.