จากกรณีสาวสวย โอปอล หรือ “สุชาตา ช่วงศรี” กับการสร้างประวัติศาสตร์ สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มงแรกแห่งประวัติศาสตร์มาให้คนไทยได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็น 72 ปีที่คอยสำหรับประเทศไทยในการคว้ามงกุฎดังกล่าว งานนี้ทำเอาคนไทยทั้งประเทศมีความสุขมากๆ และพูดถึงเธอผ่านโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ไขความลับคำตอบทรงพลัง”โอปอล สุชาตา” ฉายภาพผู้หญิงยุคใหม่ที่เข้มแข็งแต่อ่อนหวาน

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ หยุน จวิน (Yun Jun) มิสเวิลด์เวียดนาม ส่งข้อความสุดซึ้งถึง โอปอล “สุชาตา ช่วงศรี” ผู้คว้ามงกุฎ Miss World 2025 จากประเทศไทย ผ่านโพสต์บนโซเชียลมีเดีย โดยเผยถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองตลอดการเดินทางในเวทีระดับโลกครั้งนี้

โดยหยุน จวิน เผยว่า “ในฐานะมิสเวิลด์เวียดนาม ฉันเคารพคุณจริงๆ ฉันติดตามการเดินทางของคุณมาสักพักแล้ว และรู้เสมอว่าคุณมีคุณสมบัติที่จำเป็นในการคว้ามงกุฎ การดูคุณแสดงทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมาย และผลักดันให้ฉันพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ในการแข่งขันครั้งนี้เราต้องการทำอย่างดีที่สุดเพื่อทุกคนที่รับชม เพื่อการประกวดนั้นเอง และเพื่อประเทศของเรา พูดตามตรง ฉันรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่ได้ร่วมการประกวดกับคุณ”

ทั้งสองยังเป็นเพื่อนร่วมห้องกันตลอดระยะเวลาการประกวด ซึ่งหยุน จวิน กล่าวถึงช่วงเวลานั้นด้วยความประทับใจว่า “ฉันชอบที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ มาก เราใช้เวลาเช้าตรู่และดึกดื่นด้วยกันหลายครั้ง คุณทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเสมอหลังจากถ่ายทำเสร็จ ฉันจำได้ว่าคุณพยายามเงียบมาก เพื่อให้ฉันจัดการเรื่องต่างๆ ได้สำเร็จ ช่างน่ารักจริงๆ บางครั้งเราเหนื่อยมาก แต่พลังบวกที่เข้ากันช่วยให้เราผ่านทุกอย่างไปได้ และทำให้ประสบการณ์ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนที่ยอดเยี่ยมในช่วงวัยเด็กของเรา”

นอกจากนี้ เธอยังบอกว่า “แต่เหนือสิ่งอื่นใดในฐานะเพื่อน ฉันรักทุกนาทีที่ได้ใช้ร่วมกับคุณ เราคุยกันเยอะมาก และสนุกสนานไปกับการสำรวจและทำความรู้จักกับวัฒนธรรมและผู้คนในประเทศของฉัน ประเทศของคุณ และอินเดีย ซึ่งเป็นสถานที่อันน่าอัศจรรย์ที่เป็นเจ้าของมิตรภาพของเรา เมื่อฉันเห็นคุณสวมมงกุฎ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเก็บความรู้สึกไว้ ฉันแสดงความยินดีกับคุณบนเวทีไปแล้ว แต่ฉันอยากจะเขียนสิ่งนี้ลงไปอีกครั้งเพื่อให้ความทรงจำของเราคงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ขอแสดงความยินดีกับ Miss World ที่รักของฉัน ตอนนี้เป็นเวลาของคุณแล้ว เปล่งประกายสดใสยิ่งขึ้น ราชินี”

อย่างไรก็ตาม “การเดินทางที่เหลือเชื่อนี้ ทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น และมิตรภาพของเราก็ก้าวข้ามพรมแดน แม้ว่าเราอาจจะอยู่ห่างกัน แต่สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น จะทำให้เราใกล้ชิดกันเสมอ ฉันแทบรอวันที่เราจะได้พบกันอีกครั้งไม่ไหวแล้ว”

ขอบคุณข้อมูล : huynhtranynhi.1806