เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก ว่า ตนได้พูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. อีกทั้งได้สั่งการนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เรียกหน่วยงานทั้งหมดมาประชุมร่วมกันในวันนี้ (4 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. เพื่อสรุปข้อมูลต่างๆ ส่งให้กับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ตนขอชี้แจงว่าสาเหตุของปัญหาดังกล่าว มาจากการทำเหมืองแร่ในประเทศเมียนมา แม้เราได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้หารือกับรัฐบาลเมียนมา แต่พื้นที่ที่ทำเหมืองอยู่ในเขตของกลุ่มว้าแดง ในรัฐฉานของเมียนมา ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลเมียนมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราสามารถดำเนินการได้ คือการที่เราได้มีการเรียกประชุมและจะมีการประกาศมาตรการอะไรบ้าง เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่ตนขอยืนยันว่า ไม่ได้มีสารปนเปื้อนทุกจุดในแม่น้ำกก โดยเรามีการตรวจคุณภาพน้ำอยู่ตลอดเวลา ตรวจทุกสัปดาห์ ตรวจเป็น 10 จุด ในแม่น้ำทุกสาย อีกทั้งได้รับการยืนยันจากกรมประมงแล้วว่า ปลาที่ถูกตรวจพบว่ามีลักษณะบวมนั้น มีสาเหตุมาจากพยาธิ ไม่ใช่เพราะสารพิษ ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินมาตรการกักน้ำเป็นช่วงๆ เพื่อให้น้ำตกตะกอน และดำเนินการกำจัดตะกอนที่มีสารปนเปื้อนตรงนั้นออกไป จึงขอย้ำว่าเราดำเนินมาตรการต่างๆ อยู่ตลอด

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ดังนั้นอยากขอร้องสื่อมวลชนว่าการนำเสนอข้อมูลในเรื่องนี้ ขอให้ฟังข้อมูลจากส่วนราชการเป็นหลัก เพราะในวันนี้ตนเห็นข่าวจากฝ่ายต่างๆ ออกมา ซึ่งมีทั้งข่าวที่จริงและข่าวที่ไม่จริง ซึ่งข่าวใดที่ออกสู่สาธารณะ ประชาชนก็จะเชื่อตามนั้น แล้วเมื่อเรามาชี้แจง ก็กลายเป็นว่าเราทำตามหลัง โดยประชาชนรับข้อมูลข่าวเหล่านั้นไปแล้ว จึงทำให้การชี้แจงแก้ไขให้ข้อมูลที่ถูกต้องลำบาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าหลังการประชุมในช่วงเช้าวันนี้ กระทรวงทรัพยากรฯ จะสามารถประกาศมาตรการเพื่อแก้ปัญหาแม่น้ำกกได้เลยใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ที่จริงเราดำเนินการมาตรการต่างๆ อยู่แล้ว แต่วันนี้จะเป็นการประชุมเพื่อสรุปและนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบ และการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานต้องมาร่วมกันทำงาน ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นส่วนหนึ่งที่เข้าไปร่วมดำเนินการด้วย