เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดพักรถอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางเขาพับผ้า ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง จ.ตรัง และพัทลุง กลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้น จากหลายจังหวัดทางภาคใต้ ได้รวมตัวกันเพื่อประท้วง และเรียกร้องให้ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ทบทวนคำสั่งห้ามรถโดยสารสองชั้นวิ่งผ่านเส้นทางดังกล่าว คำสั่งห้ามนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการด้านความปลอดภัย ที่ ขบ. ประกาศห้ามรถโดยสารสาธารณะสองชั้น ทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง วิ่งผ่าน 7 เส้นทางที่มีความลาดชันทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า ตรัง-พัทลุง

ดร.สุริยะ แกล้วทนงค์ จาก สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย ออกมาเปิดเผยว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจของพวกเขา โดยรถทัวร์กว่า 4,000 คัน ต้องเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถไปยังเส้นทางอื่นที่มีระยะทางไกลขึ้นถึง 100 กิโลเมตร ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากวันละประมาณ 12,000 บาท เป็น 15,000-16,000 บาท ผลคือ ลูกค้าลดลง และบางรายต้องยกเลิกการเดินทางอย่างกะทันหัน
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้ชี้ให้เห็นว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เส้นทางเขาพับผ้าไม่เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับรถโดยสารสองชั้นเลย จึงเห็นว่าคำสั่งห้ามนี้อาจไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และยิ่งไปกว่านั้นยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะร้านค้าและร้านขายของฝากของที่ระลึกต่างๆ

นางกนิษฐา ชัยคช อายุ 56 ปี ผู้ประกอบการร้านเค้กขนิษฐา ใน ต.นาโยงเหนือ จ.ตรัง กล่าวเสริมว่า การประท้วงในครั้งนี้มีการจัดเวทีเสวนาเพื่อสะท้อนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และเสนอแนวทางแก้ไขต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ประกอบการเรียกร้องให้ ขบ. ทบทวนคำสั่งห้ามดังกล่าว และพิจารณาใช้มาตรการอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มความปลอดภัยในการเดินรถได้ โดยไม่สร้างผลกระทบต่อธุรกิจและเศรษฐกิจในท้องถิ่น ซึ่งตั้งแต่มีคำสั่งห้ามเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 รายได้ของร้านค้าต่างๆ ได้ลดลงกว่าครึ่งแล้ว
ในส่วนของหน่วยงานราชการ นายอนันต์ บุญสำราญ รอง ผวจ.ตรัง และ นายปรีชา นวลน้อย รอง ผวจ.พัทลุง ได้เดินทางมารับหนังสือข้อเรียกร้องจากผู้ประกอบการ โดย นายอนันต์ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกินขีดความสามารถในการแก้ไขของทั้งสองจังหวัดในเบื้องต้น และจะดำเนินการส่งหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าวไปยัง รมว.คมนาคม และ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เพื่อหาทางออกให้กับผู้ประกอบการต่อไป