หลังจากบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล แห่ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน มิ.ย. นี้ โดยบอกว่า “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ยังไม่ได้นัดหารือเรื่องการเขย่าเก้าอี้รัฐมนตรี หลังจากที่ “นายใหญ่ทักษิณ ชินวัตร” ออกมาประกาศกร้าวขอยึดเก้าอี้มหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย ทำเอาสถานการณ์การเมืองร้อนระอุ ท่ามกลางกระแสข่าวลือการปล่อยโผ “ครม.อิ๊งค์ 2” มีการวางตัว นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้มานั่ง มท.1 แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องจับตาดูว่า บทสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ใครจะมาใครจะไป จะได้นั่งเก้าอี้กระทรวงไหน หรือจะมีการโยกบางพรรคออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยจะมีการเจรจาต่อรองกับนายอนุทิน ภายหลังเดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุมระดับโลกว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติครั้งที่ 8 : Global Platform for Disaster Risk Reduction (GP2025) ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ (ระหว่างวันที่ 2-6 มิ.ย. นี้)

นอกจากนี้ยังมีสารพัดโผ รัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ที่อยู่ในข่าย “หลุดจากตำแหน่ง” ประกอบด้วย 1.นายพิชัย นริพทะพันธุ์ โควตาพรรคเพื่อไทย พ้นเก้าอี้ รมว.พาณิชย์ 2.น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย พ้น รมช.มหาดไทย 3.นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล พรรคเพื่อไทย พ้น รมช.คลัง 

“ภูมิใจไทย” นิ่ง สยบ ความเคลื่อนไหว “เสี่ยหนู” ฟัง “แพทองธาร” คนเดียว

สำหรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ปัจจุบันมี 8 คน 9 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย 2.พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ 3.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน 4.น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 5.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย 6.น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย 7.นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ 8.นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ล่าสุดต้องรอจับตาดูท่าทีของ “เสี่ยหนู” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อยู่ระหว่างการประชุมระดับโลกว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่ 8 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส จะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในวันที่ 7 มิ.ย. นี้

ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อการปรับ ครม. จาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล แต่อย่างใด และยังไม่มีการประสานใดๆ ย้ำจะฟังการปรับ ครม. จาก “นายกรัฐมนตรี” ที่ชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” เพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นการปรับ ครม. ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ที่มี สส. 69 คน ณ เวลานี้ จึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น

จับตาพลังอำนาจ “ผู้กองธรรมนัส” ขอเพิ่มกระทรวง ศก.

สำหรับพรรคกล้าธรรม ที่ปัจจุบัน มี สส. 26 คน ภายใต้การนำของ “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานพรรคกล้าธรรม มีรัฐมนตรี 3 คน ได้แก่ 1.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ 2.นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ 3.นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ การปรับ ครม. ในครั้งนี้ มีความชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์ ที่นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ จะออกแล้วเปลี่ยนให้ลูกชาย คือ “เสี่ยเบนซ์” อรรถกร อดีต รมช.เกษตรฯ คัมแบ๊กอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้มีปัญหาทางเทคนิคจนต้องใช้วิธีส่ง “นอมินี” คือ “คุณพ่อ” มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแทน แต่เมื่อวันนี้ มีการปรับ ครม. ชัดเจนแล้ว ที่ “เสี่ยเบนซ์” จะคัมแบ๊ก กระทรวงเกษตรฯ อีกครั้ง ต้องจับตาว่า มาครั้งนี้จะใหญ่กว่าเดิมหรือไม่?? ต้องดูท่าที ของ “ผู้กองธรรมนัส” ที่ตอนนี้เป็นเสมือน “มือขวา” ของ พ่อนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจในการต่อรอง ได้มากน้อยแค่ไหน

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า กระแสข่าวโผปรับ ครม. ที่ออกมา ในกระทรวงเกรด A ที่มีการขยับตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา อาทิ กระทรวงมหาดไทย ที่มีชื่อของ “เสี่ยไก่” ประเสริฐ จันทรรวงทอง จาก รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขยับมาเป็น “มท.1” หรือแม้แต่มีชื่อ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ คัมแบ๊กกลับมานั่ง “รมว.พลังงาน” แทน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน คนปัจจุบัน นั้น ทั้ง “ประเสริฐ-สุพัฒนพงษ์” ล้วนแต่เป็นเด็กสายตรง “นายทุน” ทั้งสายพลังงาน และสายรถไฟฟ้า ที่นั่งประกบซ้าย-ขวา “พ่อนายกรัฐมนตรี” ทั้งสิ้น

ดังนั้นความเคลื่อนไหวที่ออกมาในช่วงนี้ ก็ยังเป็นโผที่ยังไม่นิ่ง คงต้องจับตา เพราะยังมีเกมอีกหลายด่านในการเจรจาต่อรอง ซึ่งจะเป็นไปตามที่ นายใหญ่ทักษิณ วาดหวังหรือไม่ หรือจะเจอเกมเฮี้ยวของพรรคร่วมรัฐบาล.