เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ท่าอากาศยานกระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการพัฒนาท่าอากาศยานกระบี่ ซึ่งนายปริญญา แสงสุวรรณ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) บรรยายสรุปว่า โครงการนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพอาคารที่พักผู้โดยสาร ทางขับขนาน และลานจอดเครื่องบิน เพื่อรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสาร เพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อเส้นทางการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน สร้างรายได้ให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในพื้นที่อย่างมั่นคง

นายปริญญา กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการฯ ประกอบด้วย 1. ก่อสร้างลานจอดเครื่องบินพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ขนาดความกว้าง 135 เมตร ยาว 960 เมตร วงเงิน 863 ล้านบาท แล้วเสร็จเมื่อเดือน ม.ค.64 สามารถรองรับอากาศยานโบอิ้ง 737 ได้จากเดิม 10 ลำ เป็น 34 ลำ ในเวลาเดียวกัน, 2. ก่อสร้างทางขับขนาน พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ขนาดความกว้าง 44 เมตร ยาว 1,840 เมตร วงเงิน 941.90 ล้านบาท ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้า 14.4% คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน เม.ย. 66 ทำให้สามารถรองรับเที่ยวบินได้มากขึ้น จากเดิม 8 เที่ยวบินต่อชั่วโมง (ชม.) เป็น 24 เที่ยวบิน/ชม.

3. ก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ (หลังที่ 3) ปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสาร หลังที่ 1,2 พร้อมอาคารจอดรถยนต์ พื้นที่โดยรวม 66,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1,500 คน/ชั่วโมง (ชม.) หรือ 4 ล้านคน/ปี เป็น 3,000 คน/ชม. หรือ 8 ล้านคนต่อปี และสามารถรองรับรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 464 คัน เป็น 2,664 คัน วงเงิน 2,923.40 ล้านบาท ปัจจุบันมีความคืบหน้าในการก่อสร้าง 66.1% คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ส.ค.65, 4. เวนคืนที่ดินประมาณ 100 ไร่ เพื่อติดตั้งระบบไฟนำร่องและลดผลกระทบด้านเสียง คาดว่าจะดำเนินการในปี 66-67 วงเงิน 350 ล้านบาท และ 5. ติดตั้งไฟนำร่อง Approach Light CAT I คาดว่าจะดำเนินการปี 68 วงเงิน 100 ล้านบาท

ด้านนายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ได้กำชับให้ท่าอากาศยานกระบี่ เร่งดำเนินการให้โครงการต่างๆ ตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานกระบี่ แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ และเน้นย้ำให้ท่าอากาศยานต้องตามปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด.