ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เทศบาลตำบลบ้านปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายวัฒนะ ผาสุข ปลัดอำเภอ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนนายอำเภอปลวกแดง เป็นประธานประชุมเพื่อคัดเลือกประธานสภาฯ และลงนามในคำสั่งอย่างเป็นทางการ มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2568 เป็นต้นไป โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เลือก นายธนัต ประเสริฐผล สมาชิกสภาฯ เขต 2 ขึ้นนั่งเก้าอี้ ประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านปลวกแดง คนใหม่อย่างเป็นทางการ โดยมีนายสุวัฒน์ บุตรนามดี นายกเทศบาลบ้านปลวกแดง ส่วนราชการ สมาชิก ครอบครัว และประชาชนในพื้นที่ร่วมแสดงความยินดีด้วยบรรยากาศชื่นมื่น

การแต่งตั้งในครั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ตามคำสั่งของอำเภอปลวกแดง เลขที่ 94/2568 ซึ่งออกตามอำนาจตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 2547 โดยได้รับการอนุมัติจากคำสั่งจังหวัดระยองที่ 8902/2564 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2564 มอบอำนาจให้นายอำเภอดำเนินการในนามของผู้ว่าราชการจังหวัด การประชุมเพื่อคัดเลือกประธานสภาฯ จัดขึ้นอย่างโปร่งใส และมีมติเป็นเอกฉันท์จากที่ประชุม
นายธนัต ประเสริฐผล หรือแบงค์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่ประชาชนด้วยบุคลิกที่เข้าถึงง่ายและมีผลงานเด่นด้านการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวหลังรับตำแหน่งว่า ตนรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณสำหรับความไว้วางใจจากเพื่อนสมาชิกและชาวปลวกแดง พร้อมย้ำถึงความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ“ผมขอสัญญาว่าจะทำหน้าที่ประธานสภาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นกลาง โปร่งใส และพร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม” นายธนัตกล่าว

ด้านประชาชนในพื้นที่ ต่างแสดงความยินดีและคาดหวังว่าผู้นำคนใหม่จะสามารถขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณูปโภค สิ่งแวดล้อม การศึกษา และการสาธารณสุขให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำให้มีเวทีรับฟังปัญหาและข้อเสนอจากประชาชนในทุกระดับ บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความอบอุ่น มีการมอบช่อดอกไม้ ถ่ายภาพร่วมกัน และกล่าวคำอวยพรจากบุคคลต่าง ๆ ที่แสดงความหวังและกำลังใจให้แก่การทำงานของประธานสภาคนใหม่
การเข้ารับตำแหน่งของนายธนัตในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการเมืองท้องถิ่นในอำเภอปลวกแดง ซึ่งกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่ต้องอาศัยผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ พร้อมทั้งพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อก้าวสู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต