“โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ กุนซือการท่าเรือ เอฟซี ไม่ได้กังวลกับการที่ต้องมาดวล “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มี “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน คุมทัพ ในเกมรีโว่ไทยลีก วันเสาร์ที่ 20 พ.ย.นี้ ที่แพท สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น.

การพบกันคู่นี้ เหมือนฟ้าลิขิต ไว้พอดิบพอดี เมื่อ โค้ชโอ่ง ขอลาออกจากทีมการท่าเรือ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. หลังจากทำผลงานไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่ง ท่าเรือ ตั้ง “โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ กลับมานั่งเก้าอี้กุนซือแบบขัดตาทัพจนจบเลกแรก จากนั้นให้หลังเพียงไม่กี่วัน บีจี ปทุม ก็แต่งตั้ง “โค้ชโอ่ง” ซึ่งฤดูกาลที่แล้วพา เดอะแรบบิท คว้าแชมป์ไทยลีก กลับมาคุมทีมอีกครั้ง พร้อมประกาศแยกทาง ออเรลิโอ วิดมาร์

โค้ชโอ่ง ประเดิมการคุมบีจี ภาค 2 ด้วยการพาทีมเยือน หนองบัว พิชญ เอฟซี ในวันพุธ จากนั้นวันเสาร์ เขาต้องนำ บีจี ไปบุกแพท สเตเดี้ยม ของ ท่าเรือ ทันที ได้เยือนถิ่นเก่าทันควัน

ผู้สื่อข่าวสอบถาม โค้ชอู๊ด ซึ่งเมื่อเข้ามาคุมท่าเรืออีกครั้ง ก็พาทีมชนะ 2 เกมรวด ถึงการพบกัน โค้ชโอ่ง วันเสาร์นี้ ซึ่ง สระราวุฒิ ตรีพันธ์ กล่าวว่า แม้โค้ชโอ่ง จะรู้ทุกอย่างของ การท่าเรือ แต่ในเกมฟุตบอลต้องสู้ด้วยแทคติก จึงไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับการเจอ บีจี ของโค้ชโอ่ง ถ้าจะมีกังวลกับการเจอ บีจี ก็คือลูกเซตพีซ ที่มีผู้ที่เล่นได้ดีอย่าง วิคเตอร์ คาร์โดโซ, อันเดรส ตูเญซ รวมทั้งจังหวะเคาน์เตอร์แอทแทค ที่อันตราย ฤดูกาลที่แล้ว ที่ตนคุมท่าเรือ ก็เสียท่าให้ บีจี ด้วยลักษณะนี้

“ก็เหลือเชื่อเหมือนกัน ที่มาเจอกันพอดี จริงๆ ผมไม่ได้คิดว่าจะมาทำต่อจากพี่โอ่ง คิดว่าเขาทำต่อได้ แต่เมื่อต้องมาเจอกัน ก็เป็นไปตามหน้าที่ เขาเปลี่ยนสถานะไปแล้ว”

เมื่อถามว่า นักเตะท่าเรือ มีแรงกระตุ้นขึ้นหรือไม่ เมื่อเจอกับ โค้ชโอ่ง ในวันเสาร์นี้ โค้ชอู๊ด กล่าวว่า นักฟุตบอลไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว เพราะเป็นมืออาชีพ การเจอกันครั้งนี้ อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้นำศักยภาพของนักเตะมาสู้ บีจี ได้ ตอนนี้แม้ท่าเรือ ชนะมา 2 เกมรวด แต่ดูจากในตาราง บีจี ก็เหนือกว่า ดังนั้นต้องมุ่งมั่นเหมือนเดิม ศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน ยังยืนยันว่า นักเตะท่าเรือมีฝีเท้าที่ดี อยู่ที่ว่าจะสร้างให้เกิดประสิทธิภาพอย่างไร

โค้ชอู๊ด กล่าวด้วยว่า สำหรับ 2 เกมสุดท้ายของเลกแรก ท่าเรือ นอกจากเจอ บีจี แล้ว จะมีเกมเยือน หนองบัว พิชญ ในสัปดาห์ต่อไป ส่วนตัวแล้วจะทำให้เต็มที่ 2 เกมที่เหลือ อย่างน้อยต้องมี 4 แต้ม ซึ่งตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโค้ชขัดตาทัพ ทำในเลกแรก ก็จะมุ่งมั่นทำผลงานให้ดีที่สุด.