เรียกว่าหลายคนยอมรับในความพยายามและสู้ชีวิตเลยจริงๆ สำหรับ “เชน ธนา” อดีตนักร้องและนักธุรกิจชื่อดัง ที่ก่อนหน้านี้ธุรกิจมีปัญหาหมุนเงินไม่ทัน จนทำให้ต้องเผชิญกับภาระหนี้สิน รวม 400 ล้านบาท แต่ได้ฝ่าฟันมรสุมชีวิตบากบั่นขายของใช้หนี้จนเหลือเพียง 100 ล้าน แต่ก็ยังไม่ท้อ ซึ่งเจ้าตัวทำทุกวิถีทางทำคอนเทนต์ต่างๆ และพยายามไลฟ์ขายของอย่างต่อเนื่องเพื่อปลดหนี้ ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น

‘เชน ธนา’ สู้ชีวิต จัดเต็มแต่งหญิงไลฟ์ขายชั้นในสตรีปลดหนี้!

ล่าสุด เชน ธนา ได้ออกมาเปิดใจในรายการ แฉ กับทาง “มดดำ คชาภา” ย้อนกลับไปในช่วงที่มีชีวิตรุ่งโรจน์ และเผยจุดพลาดของชีวิตที่ทำให้ตกต่ำกลายเป็นหนี้สินจนถึงขั้นไม่มีเงินเติมแก๊สให้ลูกทอดไข่กิน แต่ไม่ย่อท้อได้เงินของขวัญในติ๊กต็อกช่วยชีวิต

โดย เชน เผยว่า “จากวันหนึ่งออกทีวีให้เห็นหน้า 34-35 ครั้ง ก็ทุกช่อง ตอนที่เราขายสินค้าหลายอย่าง ซึ่งปี 62-63 มันก็สวยหรูตามที่เราวาดฝัน แต่มาพลาดตอนปี 64 ที่เป็นข่าว ซึ่งอมาโด้ดีตั้งแต่ปี 57 ชีวิตก็ดีมาตลอด จนมาขาย 100 ล้านตอนปี 59 ปี 60 เริ่ม 200 ล้าน ปี 61-62 เริ่ม 700 ล้านต่อปี เริ่มจับเงิน 10-20 ล้าน สินสอดขอภรรยาแต่งงาน ปี 63 ก็ยังสวยหรูอยู่ ปี 63 ที่สุดแล้ว ปิดยอดขายไปกว่า 2.2 พันล้าน หักอะไรหักค่าเสื่อมเหลือกำไร 89 ล้าน”

“ถามว่าจุดเปลี่ยนคือตรงไหน ปี 2564 ก็คือตอนนั้นตนไม่มีวุฒิภาวะมากพอดีกว่า ไม่เข้าใจว่าจองสัมปทานสื่อมันคืออะไรกันแน่ ตนมีความฝันแหละว่าอยากประมูลช่อง อมาโด้ชาแนลไปเลย ตอนนั้นเราเด็ก พอดีลธุรกิจเราเซ็นไปทั้งปีเลย เพราะเราต้องใช้สื่อตอบโจทย์การขายเพื่อดึงนักลงทุน ซื้อช่องละ 100 ล้าน หลักๆ 4 ช่อง แต่ตอนนั้นหวือหวา มี “พี่สรยุทธ” มา เรตติ้งสวิงไปหมด พอเราเซ็นช่องบางช่องไป 100-200 ล้าน เขาเปลี่ยนเส้นเราไปอยู่เส้นอื่น เป็นแบบนั้น 2-3 ช่อง ผมก็ยังใจสู้ ก่อนจะมาโดนข่าวปีที่แล้ว คนน้อยก็จะสู้คืนทุนให้ได้ ขายเพิ่ม กำไรน้อยขายมาก ให้ขาดทุนน้อยที่สุด มาพลุแตกปีที่แล้ว เป็นข่าวเลยพังเละเลย”

มดดำ ได้เสริมต่อว่า “เมย์ (วาสนา) ก็บอกตอนขายดีก็สั่งของเมย์ วันหนึ่งขายได้เขาก็ใช้หนี้ 800 ล้าน ตั้งแต่ปี 64-65 เชน บอกว่า ก็ใช้หนี้ไปร่วม 200 ล้าน”

เชน เล่าต่อว่า “อย่างของเมย์ วาสนา ก็ออกแบบร่วมกันว่าสมมุติคอลลาเจนทุกกระป๋องที่ทุกคนอุดหนุน มันอาจจะมี 10-15 บาทค่าใช้หนี้ไป ถ้าผมขายล้านกระป๋อง ผมก็จะใช้หนี้ได้อีก 15 ล้าน เงินสดก็แบ่งชำระตามที่ไกล่เกลี่ยกันไป สภาพทุกวันนี้ก็โอนเจ้าละ 10,000-20,000 บาททุกวัน

ผมยังไม่ได้ล้มละลาย เราใช้หลักฟื้นฟูกิจการด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้ศาลสั่ง เราฟื้นด้วยลูกค้าที่ยังประคองเราอยู่ เรามองว่าสภาพเราปัจจุบันมันเหลือยอดขายอยู่แค่ 15-20 ล้าน ถามว่าเอาพลังจากไหนในการไลฟ์ทุกวัน ก็ยังคงประคองพนักงานไว้อยู่ ผมยังมีความหวังว่าจะกลับไปเดือนละ 60 ล้านได้ จะกลับไปให้ได้ ขอแค่กลับมา 60 ล้าน จากประสบการณ์ที่เราเจ็บ แล้วมันน่าจะตอบแทนพระคุณเจ้าหนี้ทุกคนที่ใจเย็นได้ มันก็มีคนเข้าใจและไม่เข้าใจ ทุกวันนี้มันก็ลุยจนไม่รู้จะพักเมื่อไหร่ ยังดีที่มีลูก มีครอบครัว ถามว่าเอาเงินให้เจ้าหนี้แล้ว เอาเงินที่ไหนกิน คือตัวผมเองหยุดรับเงินเดือนมาตั้งแต่ 2567 ก่อนจะมีข่าวอีก เพราะเรารู้สภาพเราแล้วเราต้องลดคนอีก วันนี้ไม่มี มีจากติ๊กต็อก ส่วนตัววันนี้กินข้าวได้อยู่คือค่าดอกกุหลาบในติ๊กต็อก ก็ไลฟ์ไปเรื่อย ๆ แต่ทุกสิ้นวันมันจะมี 2,000-3,000 บาท พอพาลูกไปเซเว่นได้”

เชน เสริมต่อว่า “วันที่เราโดนบี้จนไม่เหลือเงิน วันนั้นเป็นศูนย์ทุกวัน จนวันหนึ่งมันหนักที่ว่าของขวัญในติ๊กต็อก พี่เลี้ยงโทรฯ มาบอกว่าแก๊สหมด ลูกแฝดต้องทอดไข่กิน ไม่ให้เขาขาดสารอาหาร ไม่มีแก๊ส คือยืมเงินจนไม่รู้จะยืมใคร แต่ตนเป็นคนที่ยกหูหาใครให้ยืมหมด แต่บางคนก็จะเก็บไว้ในพื้นที่ปลอดภัย วันนั้นหมด แล้วก็เปิดดูอุ๊ยค่าดอกไม้ได้ 700 บาท ก็เลยถอนออกมาเติมแก๊ส ถามว่าทำไมไม่ท้อ คือผมยังมองว่าสิบปีที่ผ่านมา อาจจะเป็นนักการตลาด นักขาย แต่พลาดเรื่องการเงิน ระบบไอที เรื่องการตลาด การขาย ผมไม่ได้ทำอะไรผิด มันเหมือนเราชื่นชมนักการเมืองบางคน นักธุรกิจ เขาจะสร้างได้อีก คิดว่าถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราก็จะกลับไปได้”

งานนี้หลังจากเชนได้ออกมาพูดถึงการช่วยเหลือตัวเอง และไม่ท้อในการใช้หนี้ แฟนๆ ก็มาให้กำลังใจเชนและชื่นชมการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่ท้อถอยและสู้เพื่อลูกและเมียอย่างเต็มที่ โดยหลายคนพากันแชร์และบอกว่าจะใช้สินค้าเชนอีกด้วย

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการแฉ, Chaintana