ขอต้อนรับเข้าสู่ MOVIE STATION อีกครั้ง งานนี้ใครเป็นสาวกคนรักหนังมาทางนี้ได้เลย เพราะวันก่อน “เนเรซ” ได้มีโอกาสไปดูภาพยนตร์ระทึกขวัญของประเทศอินโดนิเซีย เรื่อง “Petaka Gunung Gede คำสาปแห่งเขาเกเด” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่สร้างมาจากเค้าโครงจริงของนักศึกษาชาวอินโดนิเซีย ที่จะนำพาทุกคนไปค้นหาสิ่งลี้ลับภายในป่าต้องคำสาป พร้อมทั้งสอดแทรกถึงเรื่องราวความเชื่ออันน่าขนลุกของชาวอินโดนิเซีย ซึ่งก่อนชมภาพยนตร์ เนเรซ ได้เตรียมใจพกความกล้าเข้าโรงภาพยนตร์ไปเต็มเนี่ยว แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือมีทั้งความน่ากลัวและน้ำตาซึมไปพร้อมๆ กัน เพราะเรื่องนี้นอกจากจะเป็นเรื่องของปีศาจแล้ว ยังมีเรื่องของมิตรภาพที่เพื่อนมีให้กัน มันทำให้กินใจคนดูเลยทีเดียว
โดย “คำสาปแห่งเขาเกเด” ได้สร้างมาจากเรื่องจริงของ “มายา อัซกา” นักศึกษาชาวอินโดนีเซีย บอกเล่าเรื่องราวของ “มายา” และ “อิตา” สองเพื่อนรักที่ออกเดินทางปีนเขาเกเด แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อทุกคนเริ่มกล่าวโทษอิตาว่าได้ละเมิดตำนานบางอย่างบนภูเขา มายากลับไม่เชื่อว่าเพื่อนของเธอจะต้องรับชะตากรรมอันโหดร้ายขนาดนั้น เธอเริ่มสงสัยว่าอิตาได้ทำบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่าที่ทุกคนคิด จนกลายเป็นเหตุให้เธอต้องเผชิญกับการลงโทษและความหวาดกลัวอย่างทารุณ มายาตั้งใจแน่วแน่ที่จะค้นหาคำตอบเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนรักของเธอให้พ้นจากเคราะห์ร้ายนี้ ท่ามกลางความลึกลับและอันตรายที่รออยู่เบื้องหน้า
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างสรรค์โดย “Azhar Kinoi Lubis” ผู้กำกับภาพยนตร์คุณภาพมากฝีมือ ที่เคยสร้างความประทับใจมาแล้วมากมาย อาทิ ชู้จากนรก (Pengantin Setan), รันตี แต่งผีปลุกปีศาจ (Pengantin Iblis) เป็นต้น “คำสาปแห่งเขาเกเด” ไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์สยองขวัญทั่วไป แต่ยังสอดแทรกความเชื่อและวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้อย่างลึกซึ้ง ผู้ชมจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่น่าขนลุกของป่าทึบและภูเขาที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าขาน พร้อมทั้งดำดิ่งไปกับความหวาดกลัวที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของตัวละคร เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ พร้อมด้วยงานสร้างที่พิถีพิถัน ทั้งการถ่ายทำในสถานที่จริงที่สวยงามแต่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว รวมถึงเทคนิคพิเศษที่สร้างสรรค์เพื่อเพิ่มความสมจริงให้กับฉากเหนือธรรมชาติ มั่นใจได้ว่าผู้ชมจะได้รับประสบการณ์ที่เต็มอิ่มและน่าจดจำ”
สำหรับความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้ เนเรซ ให้คะแนนอยู่ที่ 7.5/10 ค่ะ เพราะส่วนตัวของเนเรซแล้ว เนื้อเรื่องของเรื่องนี้เป็นการสร้างจากเรื่องจริง การเริ่มเรื่องมาถือว่าดีในระดับนึง เพราะแอบยิ้มตามกับความสนุกสนานและความสดใสของ2สาวที่เป็นเพื่อนสนิทกัน รวมถึงซาวด์ดนตรีของตอนเริ่มเรื่องเป็นฟิวแฮปปี้สุดๆ แต่พอดูไปสักระยะ เนื้อเรื่องเริ่มยืด น่าเบื่อ การเดินเรื่องช้าพอสมควร เนเรซ ขอแอบกระซิบนิดนึงว่า ในโรงภาพยนต์มีคนแอบหลับด้วยนะ แถมบางฉากเหมือนจะน่ากลัวแต่ก็น่ากลัวไม่สุด ฉากไหนจะดิ่งก็ดิ่งไม่สุด เหมือนมีจุดขายของเรื่องเยอะเกินไป แต่ส่วนตัว เนเรซ ชอบตรงที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการสอดแทรกความเชื่อและวัฒนธรรมของชาวอินโดนิเซียเข้าไปอย่างลึกซึ้งอีกด้วย
ส่วนในเรื่องของนักแสดงหลักทั้ง 2 คน ในด้านของการแสดงถือว่าไม่ค่อยมีที่ติสักเท่าไหร่ และในด้านอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาให้คนชมได้รับรู้ถึงช่วงเวลา ณ ตอนนั้น ก็ดีพอสมควร นักแสดงทั้ง2คนมีความสื่ออารมณ์ถึงกันได้อย่างชัดเจน ดีใจ เสียใจ มีความสุข และการสูญเสีย ทั้งคู่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว อีกทั้งซีนที่เป็นครอบครัวก็ให้เห็นความแตกต่างของทั้ง2ครอบครัว ความรักของแม่ที่มีให้กับลูก การสูญเสียคนรักในครอบครัว ในภาพรวมของพาร์ตนักแสดงถือว่าออกมาดีเลยทีเดียว แต่สำหรับตัวของคุณพ่อ อิตา ยังสื่ออารมณ์ได้ไม่ดีนัก อาจจะทำให้ดูขัดกับเนื้อเรื่องไปสักนิด
สำหรับเรื่องสถานที่การถ่ายทำและมุมภาพต่างๆ ถือว่าสวยงาม แต่บางจุดมีมุมที่อาจทำให้เวียนหัวไปบ้าง แต่ก็พอให้อภัยได้ เพราะบรรยากาศของโลเคชั่นสร้างความหลอนให้กับเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหลายคนหวังที่จะดูความโบ๊ะบ๊ะของผีที่ออกมา บอกเลยว่าอย่าคาดหวัง เพราะผีแทบไม่น่ากลัวเลย ซึ่งตัว เนเรซ ยังมีความสับสนอยู่ว่า สรุปเรื่องนี้เป็นแนวไหน จะว่าผีก็ไม่ใช่ ปีศาจก็ไม่เชิง แถมยังมีการเล่นของสายดำเข้ามาอีก แต่ส่วนตัวคิดว่า เรื่องนี้ให้อารมณ์ด้านความรักของครอบครัวและมิตรภาพที่มีให้กับเพื่อนได้อย่างชัดเจน ถ้าใครอินกับเรื่องความรักของเพื่อน อย่าลืมพกผ้าเช็ดหน้าไปซับน้ำตากันด้วยนะคะ บอกเลยว่าตอนจบมีหักมุมนิดหน่อย อย่างไรก็ตามต้องลองไปหาคำตอบว่า สุดท้ายแล้วใครเป็นคนที่ผิดคำสาป แล้วจุดเริ่มต้นของการสูญเสียเกิดจากใครกันแน่ ไปหาคำตอบพร้อมกันกับภาพยนตร์ “เรื่อง Petaka Gunung Gede คำสาปแห่งเขาเกเด” 5 มิถุนายนในโรงภาพยนตร์
“MOVIE STATION”
โดย เนเรซ
