เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สภากรุงเทพมหานคร จัดงานนิทรรศการ “สภามหานครแห่งเอเชีย Asia Nexus: Bangkok Metropolitan Council” เพื่อจัดแสดงผลงานของ สภากรุงเทพมหานคร (สภา กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ในปี พ.ศ. 2568 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและพัฒนาสู่การเป็นมหานครแห่งเอเชีย โดยมี นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภา กทม. นายวิพุธ ศรีวะอุไร รองประธานสภา กทม. คนที่หนึ่ง นายฉัตรชัย หมอดี รองประธานสภา กทม. คนที่สอง พร้อมทั้ง สก. ผู้บริหาร กทม. หัวหน้าหน่วยงานสังกัด กทม. ตัวแทนจากสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร โรงเรียนสังกัด กทม. และประชาชน ร่วมงาน

นายสุรจิตต์ กล่าวว่า กทม. ในวันนี้ ไม่อาจจำกัดอยู่เพียงการเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย แต่กำลังขับเคลื่อนให้ก้าวสู่การเป็นมหานครแห่งเอเชีย ที่มีบทบาททั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี วัฒนธรรม และคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ ตลอดปีที่ผ่านมา สภา กทม. ได้ทำงานอย่างหนัก ทั้งการผลักดันนโยบาย การตรวจสอบถ่วงดุล การรับฟังเสียงจากประชาชน

การสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และแนวทางการบริหารเมืองที่ทันสมัยจากสภาของเมืองต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ยังส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ให้กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ด้วยการผลักดันให้มีการบรรจุหลักสูตรมวยไทยในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นต้น

นายสุรจิตต์ กล่าวต่อไปว่า การจะทำให้ กทม. เป็นมหานครระดับโลก ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งสภา กทม. เปิดพื้นที่รับฟังเสียงของประชาชน เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับเมืองหลวงไปด้วยกัน ซึ่งการพัฒนาเมืองไม่อาจทำได้เพียงฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายบริหาร แต่ต้องเกิดจากพลังร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายบริหาร ภาครัฐ เอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาชน และนานาประเทศ

จากนั้นเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารสภา กทม. ผ่านการซักถามของตัวแทนจากสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร ในหัวข้อ สภาแห่งอนาคต มหานครแห่งเอเชีย
โดย นายวิพุธ กล่าวถึงเรื่องการสร้างมหานครให้โอบรับคนทุกเพศทุกวัยว่า มหานครที่น่าอยู่ไม่ได้หมายถึงแค่ความเจริญทางกายภาพหรือเทคโนโลยี แต่ต้องเป็นเมืองที่คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกความหลากหลาย รู้สึกว่าพวกเขามีที่ยืน และมีคุณค่า ทางสภา กทม. และฝ่ายบริหาร ได้เห็นชอบให้มีนโยบายการไม่เลือกปฏิบัติทางเพศและการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศหรือการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน เพื่อความเสมอภาคและการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน

การเปิดคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย การตราข้อบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเพื่อเป็นการประกันสิทธิและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการในระดับท้องถิ่น โดยย้ำถึงจุดแข็งของ กทม. คือ การเปิดรับและยอมรับความหลากหลายของทุกคนและทำให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจในตัวเอง
ขณะที่ นายฉัตรชัย ตอบคำถามเรื่องสภา กทม. มีกลยุทธ์ในการป้องกันปัญหาการที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนมากขึ้นว่า สภา กทม. ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อวางแนวทางรับมือดิสรัปชันทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการบริการภาครัฐ นอกจากนี้ยังได้ผลักดันการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้บริการของ กทม. เข้าถึงง่ายขึ้น ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัลในโรงเรียนของ กทม. และป้องกันผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุหรือแรงงาน เพื่อให้คน กทม. วิ่งไปพร้อมกันกับเทคโนโลยี

ทั้งนี้ ในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการวิสัยทัศน์ของสภา กทม. ผลงาน สก. ผลงานของคณะกรรมการสามัญและวิสามัญของสภา กทม. การแสดงแม่ไม้มวยไทยจากนักเรียนชั้นประถมศึกษาโรงเรียนวัดปลูกศรัทธา เขตลาดกระบัง พร้อมทั้งการทำแฟลชโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อวาระเร่งด่วนในการแก้ปัญหาของคนกรุง ทั้งปัญหาน้ำท่วม PM2.5 ทางเท้า ไฟฟ้าส่องสว่าง ขยะ

ส่วนบริเวณด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ยังมีศิลปะจัดวางรูปทรงพีระมิดที่เป็นฐานรับลูกโลก สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของฝ่ายนิติบัญญัติ ความมุ่งมั่นของ สก. ทั้ง 50 เขต ที่จะร่วมกันแก้ปัญหาเมืองกรุง และผลักดันให้ กทม. พัฒนาสู่การเป็นมหานครของเอเชียและโลกในอนาคต.