เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่มีนายอนุรักษ์ จุรีมาศ สส.ร้อยเอ็ด พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) รองประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ขณะพิจารณางบประมาณในส่วนของเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง รวมถึงสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
ช่วงหนึ่ง นายวิสาร เตชะวีราวัฒน์ กมธ. หารือว่า เรามีมติตั้งแต่การประชุม กมธ. นัดแรกว่าจะไม่มีการถ่ายทอดสดในการประชุม ส่วนใครจะไปถ่ายทอดสดต้องรับผิดชอบเอง และสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ขอเรียนว่าในการโต้ตอบ หากท่านเสียอารมณ์ หรือท่านจะใส่อารมณ์นั้น มีการถ่ายทอดสดทุกขณะ ตนคิดว่าในส่วนนี้น่าจะมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งหากท่านจะถ่ายทอดสด ก็ขอให้ท่านระบุเลยว่าจะเป็นการถ่ายทอดจากของท่านหรือของใคร ถ่ายจากจุดไหน จึงอยากฝากให้ประธานช่วยกำชับด้วย เพราะตนมองว่าไม่แฟร์สำหรับข้าราชการหรือราชการ แม้ว่าบางครั้งข้าราชการอาจจะไม่เสียหายอะไร เพราะชี้แจงตามงบประมาณที่เขาได้รับมา หากข้อบกพร่องต่างๆ ว่ากันไป แต่ขณะเดียวกันหากเราถ่ายทอดสดทั้งที่ยังไม่เป็นมติของ กมธ. เนื่องจากอาจจะมีเรื่องอะไรที่สุ่มเสี่ยง รวมถึงยังมีเรื่องของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ยอมความกันไม่ได้อีก ซึ่งในส่วนนี้ต้องห่วงข้าราชการหรือราชการด้วยว่าเขาอาจจะมีปัญหา ฉะนั้น จึงขอให้ประธานวินิจฉัย เพราะยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ต้องเข้ามาชี้แจง
นายอนุรักษ์ ชี้แจงว่า ตอนที่มีประชุม กมธ. ครั้งแรก เรามีมติชัดเจนว่าจะไม่มีการถ่ายทอดสดในห้อง กมธ. มีเพียงการถ่ายทอดสดไปรอบอาคารรัฐสภา แต่หากใครที่จะไปแชร์ต่อต้องรับผิดชอบกันเอง กรรมาธิการเราไม่รับผิดชอบด้วย นี่ถือเป็นข้อบังคับและมติที่เราตกลงร่วมกันไว้
ด้าน น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะ กมธ. กล่าวว่า ตนเป็นคนถ่ายทอดสดจากห้องตนไปสู่ช่องยูทูบของตนเอง ซึ่งหากมีปัญหาอะไร ตนรับผิดชอบเอง ใครอยากฟ้องก็ฟ้องตนเลย ตนรับผิดชอบเองทั้งหมดเต็มที่ เพราะเราถกเถียงเรื่องนี้กันมาหลายรอบ รวมถึง น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษก กมธ. ก็ระบุว่า การประชุม กมธ. มีการถ่ายทอดหน้าห้องประชุม กมธ. อยู่แล้ว หากสมาชิกท่านใดประสงค์จะเผยแพร่การประชุมสู่สาธารณะผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น ยูทูบหรือเฟซบุ๊ก ก็สามารถทำได้ ไม่ได้มีข้อห้ามใดๆ แต่ต้องรับผิดชอบเอง ตนจึงน้อมนำคำชี้แนะของ น.ส.ลิณธิภรณ์ มา หากท่านใดมีปัญหา อยากฟ้องก็ฟ้องเลย ข้าราชการท่านใดที่รู้สึกว่าชี้แจงแล้วจะมีปัญหา ก็สามารถฟ้องตนได้ ช่องตน ตนรับจบได้
ทำให้นายวิสาร กล่าวว่า เป็นการถ่ายทอดสดส่วนตัวท่านเอง หากจะชี้แจงของหน่วยงาน ตนก็ไม่ติดใจอะไร แต่นี่เป็นการถ่ายทอดสดทุกนาที ซึ่งบางอันยังไม่เป็นมติด้วยซ้ำ และที่สำคัญตนมองว่าจะไม่เกิดประโยชน์ต่อการพิจารณางบประมาณปี 69 เพราะข้าราชการก็ต้องระแวง อะไรที่จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงก็ทำไม่ได้ จึงขออนุญาตประธานว่าหากเรื่องไหนที่หน่วยงานต้องชี้แจงแล้วรู้สึกว่าสุ่มเสี่ยง หากมีการที่จะถ่ายทอดสดทุกนาที ก็ขอให้หน่วยงานนั้น ขอให้มีการประชุมลับ แต่หากคุณจะไปไลฟ์สดหน้าห้องก็เป็นเรื่องของคุณ และคิดว่าหากทำเช่นนี้ จะถือว่าเป็นการระแวงซึ่งกันและกัน บางเรื่องที่ถ่ายทอดสด ในบางเรื่องก็จะมีความพอใจของบางคนและไม่พอใจของอีกบางคน ฉะนั้น จึงอยากให้เป็นมติของ กมธ. ที่สำคัญคือตนเป็นห่วงข้าราชการที่อาจจะอยากสื่อสารว่าอยากได้อะไรบ้าง งบประมาณเป็นอย่างไร ซึ่งหากมีไลฟ์สดก็จะทำไม่ได้ ทั้งนี้ หากท่านจะถ่ายทอดสดในส่วนของท่านเองเราไม่ว่า แต่อย่าถ่ายทอดสดในส่วนของตนที่อยากแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาชี้แจง
ก่อนที่นายอนุรักษ์ จะวินิจฉัยว่า เนื่องจาก กมธ. มีบุคคลภายนอกเข้ามาชี้แจงด้วย ในข้อบังคับจึงไม่ได้เขียนไว้ให้มีการถ่ายทอดสด หากท่านจะไปเผยแพร่ต่อ ท่านต้องรับผิดชอบเอง จากนั้นจึงเข้าสู่การประชุมต่อ.
