เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. มีรายงานว่าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้เปิดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมัยวิสามัญสมัยที่ 1 เพื่อยื่นถอดถอนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เขต 7 อ.หาดใหญ่ ตกเป็นผู้ต้องหาจากการกระทำความผิดอาญาและจริยธรรมนักการเมือง มีสมาชิกเข้าประชุม 36 คน โดยมีนายทวีศักดิ์ อรัญดร ประธานสภาทำหน้าที่ประธานที่ประชุม

รายงานในการประชุมวันนี้มีการประชุมลับ ประธานสภาได้เชิญผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องประชุมทั้งหมด มีการพูดคุยกันหลากหลายในการลงมติถอดถอน ส.อบจ. มี ส.อบจ. กลุ่มหนึ่งได้เสนอให้การลงมติในวันนี้ เพราะกระแสสังคมทำให้ภาพลักษณ์สภา อบจ.สงขลาเสื่อมเสีย มี ส.อบจ. อีกกลุ่มไม่ต้องการให้ถอดถอน หวั่นเกรงว่าจะถูกฟ้องร้องภายหลัง และมี ส.อบจ. บางคนเอาคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดจังหวัดนครราชสีมา ขึ้นมาโชว์ในที่ประชุม

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า มติที่ประชุมให้หารือผู้ว่าราชการจังหวัด คือมีข้อระเบียบบางอย่างที่ได้จากศาลปกครองที่เคยพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดนครราชสีมา คือสมาชิกบางท่านเอาแนวคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดนครราชสีมา มาประกอบการอภิปราย เพราะกลัวเราลงมติไปขัดกับระเบียบข้อบังคับข้อ 72 ให้ผู้ถูกกล่าวได้ชี้แจงหมดข้อสงสัย ประกอบกับ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตราที่ 30 กลัวมาขัดกับระเบียบ สภามีความเห็นว่าหารือผู้ว่าฯ ผู้กำกับดูแล อบจ. หากผู้ว่าฯ มีความเห็นอย่างไร สภาทำตามที่ผู้ว่าฯ ตอบกลับมา

‘ประธานสภาอบจ.สงขลา’ ยอมรับว่าไม่ง่าย ปลด ‘สจ.กอล์ฟ’ ต้องทำข้อบังคับผิดร้ายแรง

นายทวีศักดิ์ กล่าวต่อว่า สภาได้หารือผู้ว่าฯ กรณีที่ “ผู้ถูกร้องไม่ได้อยู่ในที่ประชุม จะไม่เกิดความเป็นธรรมกับเขา” ตามที่ ส.อบจ. บางคนอ้าง หรือแม้แต่นิติกรแนะนำอย่างนี้ด้วย ดังนั้นเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้ว่าฯ หากผู้ว่าฯ สั่งมามีแนวทางอย่างไร และเร็วหรือช้า ก็จะนำเข้าที่ประชุม ประธานสภาสามารถเปิดประชุมสภาได้เลย

ด้านนายวรพงศ์ ปราบ รองประธานสภา อบจ.สงขลา กล่าวว่า ส.อบจ.สงขลา หลายคนยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ภาพลักษณ์สภา อบจ.สงขลา เสียหาย และวันนี้รู้ว่าสังคมตำหนิอย่างไร ทุกคนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทุกคนไม่อยากให้เกิด เมื่อเกิดแล้วก็มาร่วมกันหาทางออกที่ดี.