เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. กลายเป็นอุทาหรณ์ที่น่าตกใจและควรรับรู้สำหรับบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ เมื่อ นายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์  สส.พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ “หมอเจด” เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการทำโทษนักเรียนด้วยการให้ “ลุกนั่ง” จำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้

นายแพทย์ทศพร เปิดเผยว่า มีนักเรียนมัธยมคนหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ถูกคุณครูทำโทษด้วยการให้ลุกนั่งกว่า 100 ครั้ง รุ่งขึ้นนักเรียนคนดังกล่าวมีอาการปวดเมื่อยอย่างรุนแรงจนไม่สามารถนั่งได้ และที่น่าตกใจคือปัสสาวะออกมามีสีคล้ายน้ำอัดลม (โค้ก) ทำให้ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

เมื่อแพทย์ทำการตรวจวินิจฉัย พบว่านักเรียนคนดังกล่าวเป็น “โรคกล้ามเนื้อละลาย” (Rhabdomyolysis) ซึ่งเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมากเกินไปในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อเสียหายและสารต่างๆ ภายในกล้ามเนื้อ อาทิ โพแทสเซียม (Potassium), ฟอสเฟต (Phosphate), ไมโอโกลบิน (Myoglobin), ครีเอตินไคเนส (Creatine kinase หรือ CK) และยูเรต (Urate) หลุดออกมาปะปนในกระแสเลือดในปริมาณมหาศาล

“ปกติค่าซีพีเค (CPK) ไม่ควรเกิน 300 แต่น้องคนนี้ วันแรกที่มา มีค่าสูงเกิน 100,000” นายแพทย์ทศพรระบุถึงความรุนแรงของอาการ

แพทย์ได้ให้การรักษาด้วยการให้น้ำสารละลายเกลือแร่และไบคาร์บอเนตทางเส้นเลือดในปริมาณมาก (ชั่วโมงละ 300 ซีซี หรือมากกว่า 7 ลิตรต่อวัน) เพื่อให้สารพิษต่างๆ เจือจางลงและถูกขับออกจากร่างกายผ่านไต แต่หากสารพิษมีมากเกินไป ไตก็อาจถูกทำลายและ “ไตวาย” ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

นายแพทย์ทศพรกล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดที่ได้ไปเยี่ยมน้องนักเรียนคนดังกล่าว ค่า CPK ลดลงมาเหลือ 30,000 กว่า “ก็เป็นอุทาหรณ์นะครับ เด็กที่โดนครูทำโทษและเกิดกล้ามเนื้อละลายอย่างนี้ ไม่ใช่คนแรก มีมาหลายคนแล้วครับ แต่เป็นคนแรก ในกระทรวงศึกษาธิการยุคนี้” นายแพทย์ทศพรย้ำ พร้อมเรียกร้องถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคุณครูทั่วประเทศว่า “โปรดทราบ ห้ามทำโทษนักเรียนอย่างนี้อีก กล้ามเนื้อละลาย ช่วยไม่ทัน ถึงชีวิตได้นะครับ รักนะครับ”